เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.สส.2 บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายฐิติวัฒน์ ฟูกลิ่น อายุ 22 ปี ในข้อหา “ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่นักมวย หรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักมวยทำการล้มมวย” โดยจับกุมได้ที่ จ.นนทบุรี

โดยพฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ค่ายมวย อ.อัจฉริยะ ได้ส่ง เสาเอก อ.อัจฉริยะ ขึ้นชกกับ ดีเซลเล็ก บิ้วเจซี ในรายการศึกเพชรยินดี ในพิกัด 122 ปอนด์ ที่ เวทีมวยราชดำเนิน โดยก่อนการแข่งขันทัศนคติของเซียนมวย และนักวิจารณ์ ให้มุมมองวิเคราะห์ว่า จากทั้งสถิติและฝีมือ ชั้นเชิงในการชกที่ผ่านมา เสาเอก มีโอกาสเป็นฝ่ายชนะมากกว่า เมื่อถึงเวลาการแข่งขัน มีการชกกันทั้งหมด 5 ยก โดยในระหว่างการแข่งขันในช่วงยกที่ 1-3 วิธีการชกของเสาเอก ก็มีการออกอาวุธและป้องกันตามปกติเหมือนฟอร์มการชกที่ผ่านมา สถานการณ์เป็นฝ่ายออกอาวุธได้มากกว่า จนเริ่มชกยกที่ 4 และ 5 เสาเอก ไม่ค่อยออกอาวุธใส่คู่ต่อสู้และไม่พยายามป้องกันตอนที่คู่ต่อสู้ออกอาวุธใส่ จนช่วงยกดังกล่าว ถูกคู่ต่อสู้ออกอาวุธทำคะแนนได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด จนจบการแข่งขันยกที่ 5 ผลปรากฏว่า เสาเอก อ.อัจฉริยะ เป็นฝ่ายแพ้คะแนน ดีเซลเล็ก บิ้วเจซี

หลังจากจบการแข่งขันได้มีการวิเคราะห์จากบรรดาเซียนมวยและนักวิจารณ์ว่า พฤติกรรมการชกของ เสาเอก ผิดจากการชกปกติอย่างเห็นได้ชัด และมีข่าวว่ามีการแทงพนันฝั่งตรงข้ามเสาเอก ด้วยเงินจำนวนมาก ในลักษณะที่รู้ว่า เสาเอก จะเป็นฝ่ายแพ้ ตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายฐิติวัฒน์ ฟูกลิ่น มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้จูงใจ ให้นักมวยทำการล้มมวย จึงได้รวบรวมหลักฐาน และขอหมายจับ นายฐิติวัฒน์

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงนักมวย และเป็นญาติกับ เสาเอก อ.อัจฉริยะ อดีตเคยเป็นนักมวยมาก่อน และได้รับการติดต่อจากเซียนมวย ชื่อย่อ ต. เมื่อประมาณกลางเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา (ช่วงก่อนการแข่งขัน) ให้ตนไปคุยกับ เสาเอก อ.อัจฉริยะ หรือ นายอัมรินทร์ ฟูกลิ่น ที่จะขึ้นชกรายการศึกเพชรยินดี ที่ เวทีมวยราชดําเนิน โดยจะมอบเงินค่าตัวเสาเอกเป็นเงิน 250,000 บาท และตนจะได้รับค่าตอบแทนอีก 50,000 บาท ต่อมา เสาเอก ตกลงว่าจะล้มมวย ตนจึงได้แจ้งให้เซียนมวยทราบ พอถึงวันแข่งขัน เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 66 ตนได้เดินทางไปหาเซียนมวยคนดังกล่าว และอยู่ด้วยกันจนจบการแข่งขัน โดยเมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขัน และรู้ว่า เสาเอก ถูกจับได้ว่า ล้มมวย เซียนมวยคนดังกล่าว จึงได้ให้คนมารับตน ให้หนีไปหลบที่ภาคอีสานเป็นเวลากว่า 1 อาทิตย์ โดยเซียนมวยคนดังกล่าว ได้หาที่พักให้และออกค่าใช้จ่ายในการดูแลตน จากนั้นตนได้ขอกลับบ้าน โดยก่อนกลับ เซียนมวยคนดังกล่าวได้กำชับว่า เมื่อกลับไปแล้ว ห้ามซัดทอดมาถึงตน โดยหลังจากกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว เซียนมวยคนดังกล่าว ได้มีการส่งเงินให้ตนจำนวนหลายครั้ง โดยล่าสุดได้ให้เงินตน เมื่อประมาณ 2-3 วันก่อนถูกจับกุม ทั้งนี้ชุดกับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า กลุ่มของขบวนการล้มมวย ซึ่งนำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่วงการกีฬาของประเทศไทย ซึ่งเป็นกีฬาประจำชาติ โดยขณะนี้ทางสืบนครบาลได้ดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขยายผลการจับกุมขบวนการเหล่านี้ให้หมดไป โดยหากตรวจพบว่ากลุ่มบุคคลใด มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็จะรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทุกราย.