เมื่อช่วงสายวันที่ 17 ก.ย. พ.ต.ต.ประกาศิต พละเดช สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยใหญ่ จ.ชลบุรี รับแจ้งพบศพเด็กผู้ชายนอนตายปริศนา ในโรงจอดรถบ้านหลังหนึ่งพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ ตำรวจฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร รพ.วัดญาณฯ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว บริเวณโรงจอดรถ พบศพ ด.ช.เขียด (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 14 ปี สภาพศพนอนตะแคงข้าง นุ่งกางเกงนักเรียนสีดำตัวเดียว หน้าตาปูดบวมมีรอยถูกรัดด้วยเชือกที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง มีรอยเขียวช้ำตามร่างกาย คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชม. จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมส่งสถาบันนิติเวชวิทยา ทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายที่อย่างละเอียดอีกครั้ง

สอบถามน้าผู้ตาย อายุ 40 ปี เบื้องต้นเล่าว่า ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งจำได้ว่าเป็นเจ้าของกับลูกน้องอู่ซ่อมรถ จยย.แห่งหนึ่ง รุมทำร้ายหลาน โดยกล่าวหาว่าน้องไปขโมยทอง 1 บาท และ เงินสด 3 พันบาท ก่อนเกิดเหตุประมาณตี 2 แม่ตนหรือยายผู้ตายได้ยินเสียงเด็กถูกทำร้าย ร้องทรมานด้วยความเจ็บปวด จึงปลุกตนให้ลุกออกไปดู เมื่อออกไปดูก็พบว่ามีชายวัยรุ่น 4 คน 1 ใน 4 ชื่อนายพริก ไม่ทราบนามสกุล อายุประมาณ 25 ปี กำลังยืนล้อมหลานตนอยู่ โดยพยายามขู่ ให้คืนทองกับเงิน บางช่วงก็ใช้มือตบหลานหลายครั้งให้สารภาพ ตนเห็นท่าไม่ดี จึงขู่ว่าถ้าทำแบบนี้จะไปแจ้งตำรวจ แต่ถ้าเด็กขโมยจริงก็จับส่งตำรวจไป

น้าผู้ตาย เล่าอีกว่า แต่คนก่อเหตุพูดสวนกลับมาว่า “ถ้าส่งตำรวจ ก็ต้องถูกส่งตัวต่อไปสถานพินิจ เข้าไปไม่นาน เดี๋ยวออกมา” ส่วนหลานขณะนั้นอยู่ในอาการเงียบไม่พูดตอบโต้อะไร ตนจึงขู่บอกว่าถ้า ยังไม่หยุดทำร้ายหลานจะไปแจ้งตำรวจจริงๆ จากนั้นกลุ่มคนร้ายก็อุ้มหลานขึ้นรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้างไปอ้างว่าจะพาหลานไปเอาทองที่ซ่อนไว้ ตอนนั้นยอมรับว่าคิดว่าหลานเป็นคนขโมยไปจริง เพราะปัจจุบันไม่ได้เรียนหนังสือหลังแม่เสียชีวิต และเคยมีพฤติกรรมขโมยของถูกจับส่งสถานพินิจมาหลายรอบ จึงไม่ได้แจ้งความกับตำรวจ กระทั่ง มีคนมาเล่าว่าเห็นกลุ่มวัยรุ่นพาหลานนั่งซ่อนท้ายประกบหน้าประกบหลังมาส่ง ช่วงประมาณ 11 โมงของวันเดียวกัน (17 ก.ย.) ก่อนจะพบว่ากลายเป็นศพดังกล่าว

พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ กล่าวว่า เบื้องต้นกำชับ ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุทั้งหมด และ เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินโดยเร็วที่สุด เพราะถือเป็นคดีอุจฉกรรจ์สะเทือนขวัญ ทารุณกรรมเด็กมีอายุเพียง 14 ปี นอกจากนี้ยังให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานทุกปากเพื่อเร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.