เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมือง จ.ชัยภูมิ ยังวิกฤติหนักและยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ อีกทั้งน้ำป่าที่จากเทือกเขาภูเขียว เทือกเขาพังเหย ยังทะลักลงลำแม่น้ำชี ไหลเชี่ยวแรงล้นพนังดินสองฝั่งตลอดแนวแม่น้ำชี ล้นพนังกั้นแม่น้ำชี มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักมาตามลำชีลอง ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ เข้าท่วมโซนเศรษฐกิจใจกลางเมืองชัยภูมิ รวมทั้งชุมชนขี้เหล็กใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้า (5 ต.ค.) ร.ต.ท.วิศวพงษ์ ศิริเม รอง สว.(สอบสวน) เมืองชัยภูมิ รับแจ้งเหตุพระวัดบริบูรณ์ (บ้านขี่เหล็กใหญ่) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ จมน้ำมรณภาพภายในวัด จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุด้านข้างกุฏิพบศพครูอนุรักษ์ชัยธรรม (สุคนธ์ ชาคโร) อายุ 90 ปี เจ้าอาวาสวัด สภาพลอยคว่ำหน้าอยู่ในน้ำข้างกุฏิที่พัก เจ้าหน้าที่จึงนำร่างขึ้นมาบนศาลาการเปรียญ ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม. สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า พระครูอนุรักษ์ชัยธรรม บวชเรียนมาหลายสิบปี โดยพักอยู่ที่กุฏิด้านทิศเหนือของศาลาการเปรียญ กระทั่งเกิดเหตุอุทกภัยน้ำท่วมเข้ามาในวัด บรรดาพระลูกวัด และลูกศิษย์แนะนำให้อพยพออกไปจำวัดที่อื่น เนื่องจากเกรงว่าจะลำบากเพราะอายุมากแล้ว แต่เจ้าอาวาสไม่ยอมทิ้งวัด บอกว่า จะอยู่ตรงนี้ จะไม่ไปไหน ก่อนเกิดเหตุสันนิษฐานว่า พระครู อาจออกมาเดินดูระดับน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมวัดว่ามีระดับเพิ่มขึ้นมากหรือลดลงขนาดไหน แล้วอาจลื่นล้มจมลงไปในน้ำ ช่วยตัวเองไม่ได้ เพราะอายุมาก มรณภาพดังกล่าว

ร.ต.ท.วิศวพงษ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเหตุเกิดอย่างไร หรือพระครูตกลงไปในน้ำได้อย่างไร อีกทั้งตอนเกิดเหตุไม่มีใครเห็นหรือได้ยินเสียง ซึ่งจะต้องรวบรวมหลักฐาน และต้องสอบปากคำพระลูกวัด รวมถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดอุทกภัยน้ำท่วมมานานนับอาทิตย์ที่ผ่านมาในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีเด็กชายจมน้ำเสียชีวิตที่ชุมชนเมืองน้อยใต้ ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ ไปแล้ว 1 ราย ส่วนพระครูอนุรักษ์ชัยธรรม (สุคนธ์ ชาคโร) อายุ 90 ปี เป็นเจ้าอาวาสวัดบริบูรณ์ (บ้านขี่เหล็กใหญ่) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ถือเป็นศพที่ 2 จากเหตุการณ์น้ำท่วมใน จ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้