เมื่อวันที่ 21 ต.ค. จากกรณี ด.ต.เชาวลิต พุ่มขจร ผบ.หมู่ ป.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ขโมยปืนหลวงจำนวนมากในคลังอาวุธ สภ.ปากเกร็ด ไปขายและจำนำเพื่อเอาเงินใช้หนี้การพนัน ถูกจับกุมคาโรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองหนองคาย ก่อนจะหนีไป สปป.ลาว

พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า จากการตรวจอาวุธปืน รวมจำนวนหายไป 159 กระบอก เช็กเบื้องต้นครั้งแรกพบหายไป 160 กระบอก แต่ตรวจสอบมีปืนเอ็มโฟร์ 1 กระบอก มีเจ้าหน้าเบิกปืนไปใช้ภารกิจจริง ในจำนวนปืน 159 กระบอก ที่หายไป มีปืนสั้นลูกโม่ ปืนออโต้เมติกกล็อก ปืนออโตเมติกซิกซาวเออร์ รวม 134 กระบอก และปืนยาวเอ็ม 16 และปืนเอ็มโฟร์ รวม 25 กระบอก

ต่อมา พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ได้เซ็นคำสั่งที่ 292/65 ให้ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด, พ.ต.ท.สุเนตร์ สีชำนาญ รอง ผกก.ป.สภ.ปากเกร็ด, พ.ต.ท.พรรษา จิวรรักษ์ สว.อก.สภ.ปากเกร็ด ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 1 (ศปก.ภ.1) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หลังเกิดกรณีปืนหายเกิดขึ้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามปืนกลับมาให้ครบจำนวนอย่างเร่งด่วน และมีคนที่รับจำนำปืนที่ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนเพราะกลัวความผิดนำอาวุธปืนมาคืนโดยการวางทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ ถึง 9 กระบอก

ล่าสุด พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ทางตำรวจได้อาวุธปืนกลับมาแล้วประมาน 60 กว่ากระบอก แต่ก็ยังต้องดำเนินการติดตามในส่วนที่เหลืออีก เราได้มีการตรวจค้นบ้านที่ต้องสงสัยในเขตนนทบุรีและใกล้เคียงกัน ตรวจค้นไปเกือบ 10 จุด ตรงนี้ต้องมีการขยายผลต่อไปเพราะว่าเราจะต้องติดตามอาวุธปืนกลับมาให้ครบทุกกระบอก ตามที่ท่าน ผบ.ตร ได้สั่งการไว้ ผู้ต้องหานำอาวุธปืนไปจำนำกับใคร โดยไม่ว่าใครจะรับไว้ด้วยประการใดๆ ทั้งปวง อันนี้ก็เป็นความผิดก็จะติดตามนำกลับคืนมา.