เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่บริเวณถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ช่วงบ้านหัวแฮด ต.ธัญญา อ.กมลาไสย ไปถึงบ้านท่ากลาง ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายธวัชชัย รอดงาม ผวจ.กาฬสินธุ์ นางดวงตา พายุพล ผอ.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ เข้าติดตามความคืบหน้าการกู้ถนนสายดังกล่าว โดยเฉพาะการเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังถนนมานานกว่า 10 สัปดาห์ ออกจากถนน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ หมวดทางหลวงยางตลาด หมวดทางหลวงร่องคำ เจ้าหน้าที่ ปภ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงวางกระสอบทรายตามแนวถนนเป็นกำแพงกั้นมวลน้ำ พร้อมระดมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็กจาก อบจ.กาฬสินธุ์ และปภ.กาฬสินธุ์มาติดตั้ง เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นถนน โดยล่าสุดระดับน้ำเริ่มลดต่ำลงตามลำดับ แต่ยังมีบางจุดที่ยังท่วมสูง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ และยังสูบน้ำออกตลอด 24 ชั่วโมง

นายธวัชชัย รอดงาม ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากพนังลำชี บ้านสะดำศรี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย มวลน้ำขาดกระแสน้ำได้ไหลบ่าท่วมพื้นที่การเกษตรและหลายหมู่บ้านเป็นบริเวณกว้าง ส่งผลกระทบถึงถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ดบริเวณดังกล่าว ซึ่งน้ำได้เอ่อสูงและท่วมถนน ระดับน้ำสูงถึง 60-80 ซม. รถยนต์ทุกประเภทไม่สามารถสัญจรผ่านได้ หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ระดมกำลังกรอกกระสอบทรายเรียงปิดกั้นมวลน้ำตามแนวถนนมาระยะทางกว่า 3 กม. และขณะนี้ได้กั้นช่วงที่มีน้ำท่วมอยู่ประมาณ 1.5 กม.

ทั้งนี้ ปัจจุบันหลังจากสามารถซ่อมพนังลำชีสำเร็จ ไม่มีมวลน้ำไหลทะลักเข้ามาเพิ่มเติม สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลง แต่บางจุดยังสูงอยู่ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งระบายน้ำออก โดยใช้เครื่องสูบน้ำจากแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์, อบจ.กาฬสินธุ์ ปภ.กาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกันสูบน้ำออก เพื่อที่จะกู้ถนนและคืนเส้นทางจราจรให้รถยนต์สัญจรผ่านได้ตามปกติโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมน้ำท่วมขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้น ในส่วนความเสียหายด้านการเกษตร และทรัพย์สินอื่นๆ รวมถึงการชดเชยเยียวยา อยู่ระหว่างการสำรวจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป

ด้าน นางดวงตา พายุพล ผอ.แขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในช่วงที่ถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ช่วงบ้านหัวแฮด ต.ธัญญา อ.กมลาไสย ไปถึงบ้านท่ากลาง ต.เจ้าท่า สายดังกล่าวถูกน้ำท่วมขังระดับสูงรถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้นั้น แขวงทางหลวงได้เปิดทางเลี่ยงใหม่สำหรับผู้ที่จะเดินทางจาก จ.กาฬสินธุ์ ไป จ.ร้อยเอ็ด โดยเมื่อมาถึง 4 แยกบ้านบ่อให้เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.ร่องคำ มุ่งเข้าสู่ จ.ร้อยเอ็ด และขณะนี้ได้เปิดเส้นทางเลี่ยงที่ใกล้ที่สุด ซึ่งหากมาจาก จ.กาฬสินธุ์ ให้เลี้ยวซ้าย 4 แยกบ้านบ่อ จากนั้นให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางคลองชลประทานทะลุออกมาที่บ้านโจด ต.เจ้าท่า ออกถนนใหญ่ไป จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งระยะทางไม่ห่างไกลจากถนนที่ถูกน้ำท่วมมากนัก

นางดวงตา กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการกู้ถนนบริเวณดังกล่าวนั้นแขวงทางหลวงกาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้กั้นกระสอบทรายช่วงที่มีน้ำท่วมเหลืออยู่ประมาณ 1.5 กม.พร้อมระดมเครื่องสูบน้ำเร่งสูบน้ำออกจากพื้นถนนตลอด 24 ชม. เพื่อให้กลับคืนมาใช้งานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด เพราะถนนเส้นนี้เป็นถนนเชื่อมสายหลักจาก จ.กาฬสินธุ์ ผ่าน จ.ร้อยเอ็ด มุ่งไปสู่ จ.สุรินทร์ มีปริมาณจราจรใช้ถนนเฉลี่ยวันละมากกว่า 20,000 คัน ดังนั้นจึงต้องเร่งกู้กลับคืนมาให้ได้ คาดว่าจะสามารถเปิดเส้นทางจราจรได้ตามปกติในเร็ว ๆ นี้ โดยในช่วงนี้จะต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยตรวจตราและเฝ้าระวังป้องกันน้ำรั่วซึมเข้ามาอีกด้วย