เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประกอบพิธีสรงน้ำสรีรสังขาร พระครูอุปกิตสารคุณ กตปุญโญ หรือหลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี เจ้าอาวาสวัดพันสี ต.ท่าโพ อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี หนึ่งในเกจิอาจารย์ ชื่อดังของ จ.อุทัยธานี ซึ่งมรณภาพลงเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. วันที่ 2 พ.ย. 65 ที่โรงพยาบาลใน จ.นครสวรรค์ หลังเข้ารับการรักษาตัวจากอาการอาพาธ เมื่อช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา สิริรวมอายุ 91 ปี 69 พรรษา ทำให้บรรยากาศที่วัดในวันนี้​ เต็มไปด้วยความโศกเศร้า บรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งในและต่างจังหวัด ซึ่งมีทั้งพ่อค้า แม่ค้าประชาชน และข้าราชการ ทยอยเดินทางมากราบไหว้สรีรสังขาร หลวงพ่อเสน่ห์ กันอย่างไม่ขาดสาย โดยลูกศิษย์บางรายต่างพากันหลั่งน้ำตาแสดงความอาลัยต่อการละสังขารของหลวงพ่อเสน่ห์ พระสงฆ์ที่ตนเองเคารพนับถือ

โดยพิธีสรงน้ำสรีรสังขาร หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี นั้น เริ่มขึ้นในช่วงเวลา 14.00 น. โดยมี พระราชอุทัยโสภณ เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานสงฆ์ ร่วมกับ พระมหาเถระ พระเถรานุเถระ พระสงฆ์ สามเณร และศิษยานุศิษย์ ทยอยเข้าร่วมพิธีสรงน้ำไปจนถึงเวลา 16.00 น. ก่อนที่จะดำเนินการพิธีพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ เป็นลำดับต่อไป สำหรับพิธีสวดพระอภิธรรมจะมีขึ้นตั้งแต่วันนี้ เวลา 19.00 น. โดยจะมีพิธีการสวดพระอภิธรรม 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-9 พ.ย. 65 โดยจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในวันพฤหัสบดี ที่ 10 พ.ย. 65 เวลา 16.00 น.

สิ้นเกจิดัง ‘หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี’ ศิษยานุศิษย์ร่วมอาลัย

หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี ไม่ได้เป็นเพียงเกจิอาจารย์ ที่เด่นในเรื่องความเข้มขลังของวัตถุบูชาเท่านั้น แต่หลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี ยังเป็นพระสงฆ์ ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติธรรมและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ให้กับชาวพุทธได้เป็นที่ประจักษ์ อีกทั้งยังดำรงตนในการเป็นพระสงฆ์ ต้นแบบของการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ทั้งกุฏิที่พักอาศัย และถาวรวัตถุ ของวัดยังคงเน้นความเป็นสิ่งธรรมดา ไม่เน้นการยึดติดกับวัตถุ

ทำให้ ตลอดการอุปสมบทของหลวงพ่อเสน่ห์ วัดพันสี เงินปัจจัยต่างๆ​ ที่ได้มา หลังบำรุงพระพุทธศาสนา และถาวรวัตถุต่างๆ​ ภายในวัดแล้ว หลวงพ่อเสน่ห์ ได้นำเงินปัจจัย สร้างอุโบสถให้กับวัดต่างๆ​ ด้วยกันถึง 14 แห่ง อาทิ อุโบสถวัดทุ่งพึ่ง อุโบสถวัดหนองแหน และวัดทุ่งน้อย เป็นต้น ตลอดจนสร้างอาคารเรียนไม้ชั้นเดียว โรงเรียนประชาบาลวัดพันสี และสร้างถนนคอนกรีต รอบวัด ซึ่งทำให้ชาวบ้านในชุมชนพันสี ได้ใช้สัญจรสะดวกสบาย อีกด้วย จนทำให้บรรดาพุทธศาสนิกชน และศิษยานุศิษย์ พากันเลื่อมใสศรัทธา กันเป็นอย่างมาก ด้วยคุณงามความดีที่มีนานัปการ

ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา จัดกิจกรรมบวชชี-พราหมณ์ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นประจำทุกปี ร่วมมือกับคณะสงฆ์ และหน่วยงานราชการ เผยแผ่หลักธรรม โดยออกปฏิบัติงาน พระธรรมทูต อบรมพระภิกษุ-สามเณรประชาชน และนักเรียนเป็นประจำ จนได้รับแต่งตั้งเป็นพระธรรมทูตประจำจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำ ตำบลท่าโพ พ.ศ.2552 ได้รับยกย่องให้เป็นพระดีเด่นจากศูนย์ฝึกอาชีพเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ด้านวัตถุมงคลของหลวงพ่อเสน่ห์ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ปรารถนาของบรรดานักสะสมนิยมวัตถุมงคล โดยเฉพาะตะกรุดโทน แหวนหัวพิรอดทำด้วยปรอท เป็นการผสมผสานตำรับพลังไว้ถึง 3 พระอาจารย์ คือ การลงอักขระเลขยันต์ตำรับของหลวงพ่อชิตและหลวงพ่อพริ้ง วัดหาดสูง ส่วนหัวพิรอดทำด้วยปรอท เป็นตำรับหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง ส่วนวัตถุมงคลอื่นๆ อาทิ เหรียญรูปเหมือน รุ่นแรก ปี 20, รูปหล่อเหมือนลอยองค์ ปี 46, เหรียญทองแดงรูปเหมือน, ตะกรุดเส้นเกศา, ตะกรุดสามกษัตริย์และตะกรุดระนาดเอก เป็นต้น

กาลเวลาผ่านไป หลวงพ่อเสน่ห์ สั่งสมประสบการณ์ ทำให้เกียรติคุณของท่าน เป็นที่รู้จักศรัทธาเลื่อมใส วัดใกล้หรือไกลหากจัดพิธีพุทธาภิเษก-เทวาภิเษกวัตถุมงคลแล้วทำใบฎีกานิมนต์มา ซึ่งท่านไม่เคยปฏิเสธ เชื่อมั่นได้เลยว่าวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตแล้วมีอิทธิคุณสูง แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี มีโชคลาภ และมากด้วยประสบการณ์

โดยประวัติของหลวงพ่อเสน่ห์ กตปุญโญ หรือ “พระครูอุปกิตสารคุณ” เป็นพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคม ปัจจุบันอายุ 91 ปี หลวงพ่อเสน่ห์ กตปุญโญ หรือ พระครูอุปกิตสารคุณ เป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีคณะศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมไปถึงวงการนักนิยมสะสมวัตถุมงคล รู้จักท่านในนามของพระเกจิอาจารย์ เรืองวิทยาคม ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพันสี

อัตโนประวัติ เกิดในสกุล ผดุงฉัตร เมื่อวันจันทร์ที่ 10 ส.ค. 2474 ตรงกับแรม 12 ค่ำ เดือน 8 ปีมะแม ที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 4 บ้านยางขาว ต.ยางขาว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายผูก และ นางจันทร์ ผดุงฉัตร ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ในช่วงวัยเยาว์ เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดยางขาว

จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนมาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำนา ครั้นอายุครบ 22 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2496 ณ พัทธสีมาวัดยางขาว ต.ยางขาว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ มี พระครูพยุหานุศาสก์ (หลวงพ่อชิต ชิตจิตโต) เจ้าคณะอำเภอพยุหะคีรี และเจ้าอาวาสวัดยางขาว เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูนิทัศน์ธรรมเวที (หลวงพ่อช้อย) เจ้าอาวาสวัดหัวงิ้ว เป็น พระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูนิสิตคุณากร (หลวงพ่อกัน คังครตโน) เจ้าอาวาสวัดเขาแก้ว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า กตปุญโญ มีความหมายถึง ผู้กระทำซึ่งบุญคุณความดีภายหลังอุปสมบท ท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดยางขาว คอยอุปัฏฐาก รับใช้หลวงพ่อชิต พระอุปัชฌาย์

ด้วยท่านมีความสนใจในการศึกษาพระปริยัติธรรม ได้เข้าศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรม จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ณ สำนักเรียนวัดเนินเหล็ก อ.เมือง จ.อุทัยธานี จากนั้นช่วยงานศาสนกิจคณะสงฆ์ในจังหวัดเมืองอุทัย อีกทั้งยังร่ำเรียนวิทยาคมกับหลวงพ่อชิต ในด้านการสร้างวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง อาทิ ตะกรุด ผ้ายันต์ น้ำมันมนต์ ฯลฯ จากนั้นศึกษาเพิ่มเติมจากกำนันบุญ ซึ่งเป็นศิษย์ฆราวาสหลวงพ่อพริ้ง วัดหาดสูง ตลอดจนการฝึกปฏิบัติทางด้านจิตตภาวนากับหลวงพ่อชิต

ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2503 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดพันสี พ.ศ.2507 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลหนองขาหย่าง-ท่าโพ พ.ศ.2522 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2511 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นตรี ในราชทินนาม พระครูอุปกิตสารคุณ พ.ศ.2520 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2554 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก ในราชทินนามเดิม