เมื่อช่วงเย็นวันที่ 4 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวทีกลางลานนาคาเบิกฟ้า อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย พรรคภูมิใจไทย ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายเสถียร ผาณิบุศย์ ว่าที่ผู้สมัครเขต 1 พญ.จิดาภา สุนทรธนากุล ว่าที่ผู้สมัครเขต 2 และนายกฤศภณ หล้าวงศา ว่าที่ผู้สมัครเขต 3

นายอนุทิน ปราศรัยบนเวที ตอนหนึ่ง ระบุว่า วันนี้เรามาในสภาพใหม่ที่ประชาชนมาต้อนรับแน่นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเชื่อว่าประชาชนมาเพราะเบื่อความขัดแย้ง เบื่อการทะเลาะกัน ต้องการนักการเมืองสร้างความเจริญ และพรรคภูมิใจไทย ตีโจทย์แตกที่คัดว่าที่ผู้สมัครหนองคายของพรรค 3 คน มารับใช้ ซึ่งถ้าเลือกผู้สมัครทั้ง 3 จะได้ทั้งพรรคภูมิใจไทย ที่มีสโลแกน “พูดแล้วทำ” หรือ “เว้าแล้วเฮ็ด” และพรรคเราพูดแล้วทำไม่พูดก็ทำ อย่างเช่น สร้างสะพานข้ามจาก จ.หนองคาย ไปเวียงจันทน์ ซึ่งวางไว้ว่าจะให้เป็นสะพานสำหรับรถไฟความเร็วสูง และให้รถยนต์วิ่งได้ด้วย อีก 2-3 ปีได้เห็น และจะเชื่อมต่อไปจีน เพื่อให้การคมนาคมขนส่งรวดเร็ว ประหยัดเวลา ใครก็อยากมาค้าขายกับไทย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขอโอกาสให้เรามีบุญวาสนามาทำงานให้กับประชาชนที่นี่และขอให้ประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทย ในการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะเราทำให้ จ.บุรีรัมย์ เจริญแล้ว แต่จะทำให้ จ.หนองคาย เจริญกว่า จึงขอกราบให้คนหนองคาย เลือกคนหนองคายมาพัฒนาหนองคาย

นายอนุทิน กล่าวถึง เรื่องเบี้ย อสม. 2,000 บาท ว่า แค่นี้เรื่องขี้ผง ตอนนั้นทำไม่ได้เพราะยังไม่เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าลองเลือกให้เยอะๆ แล้วได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทำได้แน่ ทั้งนี้หากได้เป็นรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยจะขอดูกระทรวงสาธารณสุข เช่นเดิม เพื่อจะได้จัดซื้อเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีให้ทุกจังหวัด

นอกจากนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า นายอนุทิน ยังชูนโยบายเกษตรร่ำรวย ด้วยระบบ “คอนแทค ฟาร์มมิ่ง” หรือ ระบบ “เกษตรพันธสัญญา” โดยพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่ ทำนา ทำสวนยางพารา ทำสวนปาล์ม ทำไร่มัน จะได้รับสิทธิเข้าสู่ระบบ “คอนแทค ฟาร์มมิ่ง” กับรัฐบาล ก่อนถึงเวลาปลูก จะต้อง “รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกันมาชดใช้” เพราะทุกคนที่เข้าโครงการ จะมีสัญญาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้ากับรัฐบาล ตามราคาที่กำหนดไว้ในสัญญา พร้อมแจกแจงราคาผลิตผลทางการเกษตร ราคายางต้องไม่ราคา 100 บาท ต่อ 3 กก. แต่พรรคมีนโยบายที่จะทำให้ข้าวขาวราคา 12,000 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาทต่อตัน มันสำปะหลัง 4 บาทต่อ กก. ปาล์มทะลาย 5 บาทต่อ กก. น้ำยางสด 62 บาทต่อ กก. ยางแผ่น 65 บาทต่อ กก.

นายอนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีที่แล้ว ได้สั่งให้เพิ่มเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งอีก 7 เครื่อง มารักษาผู้ป่วยให้เร็วขึ้น แต่ก็ยังไม่พอ เพราะแต่ละปี มีผู้ป่วยมะเร็ง เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 แสนคน พรรคภูมิใจไทย จึงเห็นว่า ทุกจังหวัดต้องมีเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง อย่างน้อย จังหวัดละ 1 เครื่อง เพื่อรักษาผู้ป่วยมะเร็ง ในจังหวัดของตัวเอง ลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ป่วยและครอบครัวเพิ่มโอกาสในการรักษาให้มากขึ้น เร็วขึ้น ผู้ป่วยมะเร็งมีอยู่ทุกจังหวัด และรอเวลานาน ไม่ได้ ชีวิตผู้ป่วยทุกคน มีคุณค่าเท่ากัน มีคุณค่าที่ต้องเร่งรักษาโดยเร็ว โรคไต เป็นอีกโรคที่ผู้ป่วยจะได้รับการทรมานมาก จึงได้สั่งให้ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไตทุกคน ด้วยความเท่าเทียม และตอนนี้เดินหน้าแล้ว กับโครงการฟอกไตฟรี วันนี้ พรรคภูมิใจไทย จึงเสนอนโยบายจัดตั้งศูนย์ฟอกไต ทุกอำเภอ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้โดยเร็ว ไม่ต้องรอคิวนาน และครอบครัวมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งผู้ป่วยและครอบครัว

“พรรคภูมิใจไทยหวังว่า เราจะมีบุญได้รับใช้ทุกท่าน ที่ผ่านมา ส.ส. ของพรรคเดินหน้าพัฒนาไปได้แล้วหลายจังหวัด ทั้ง บุรีรัมย์ นครพนม อุทัยธานี ซึ่งถ้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับใช้ชาวหนองคาย เรามั่นใจว่าเราสร้างความเจริญให้ท่านได้แน่นอน เพราะจังหวัดนี้มีจุดยุทธศาสตร์อย่างแม่น้ำโขง ที่จะเป็นแรงผลักดันด้านเศรษฐกิจ อย่าลืมว่า เราเป็นพรรคที่ไม่ขัดแย้ง จะสร้างความเจริญอย่างเดียว เราไม่เล่นการเมืองแบบนักการเมืองโบราณ เราดูรับใช้ทุกพื้นที่ ถึงไม่มี ส.ส. เราก็ทำงานให้แน่นอน มาครั้งนี้ เราเอานโยบายมาขาย ก็หวังว่า นโยบายและผลงานที่ผ่านมา จะช่วยเราตอกเสาเข็มได้ ส.ส. พื้นที่” นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ จ.หนองคาย เดิมมี ส.ส. 3 คน เป็นของพรรคเพื่อไทยทั้งหมด ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครไปแล้วเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา