เมื่อวันที่ 14 พ.ย. เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โพสต์ภาพและข้อความการติดตามคดีช่วยเหลือสาวออทิสติก ถูกแก๊งวัยรุ่นล่อลวงไปให้หัวหน้าแก๊งข่มขืนกระทำชำเรา ระบุว่า สืบเนื่องจากนางเพ็ญ (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี ชาว จ.เชียงราย ร้องทุกข์ ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ แจ้งว่า น.ส.ปลาย (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ลูกสาวซึ่งเป็นออทิสติก ได้หายออกจากบ้านในวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา และกลับมาบ้านช่วงค่ำของวันที่ 20 ต.ค. โดย น.ส.ปลาย เล่าให้แม่ฟังว่า แก๊งวัยรุ่นชายหญิง 3 คนในหมู่บ้านล่อลวงไปข่มขืน

ก่อนเกิดเหตุวันที่ 19 ต.ค.65 กลุ่มวัยรุ่นเข้าใจว่า น.ส.ปลาย มีเงินในบัญชีธนาคาร 5 หมื่นบาท น.ส.ออย อายุ 18 ปี และ ด.ช.วาย อายุ 14 ปี (ทั้งสองนามสมมุติ) จึงพา น.ส.ปลายไปเบิกเงินซึ่งทางธนาคารใน อ.เชียงแสน ได้ตรวจสอบแล้วว่าในบัญชีไม่มีเงิน ทั้งสองคนจึงพา น.ส.ปลายไปหา นายอ๊อด (นามสมมุติ) อายุประมาณ 30 ปี ที่บ้าน

ลูกสาวบอกว่า นายอ๊อดโกรธมากที่ น.ส.ปลาย ไม่มีเงินในธนาคารจึงใช้อาวุธปืนข่มขู่ ตบหน้า และบังคับให้อมอวัยวะเพศของตัวเองโดยถืออาวุธมีดข่มขู่จะแทงถ้าไม่ทำตามที่บอก ระหว่างที่ น.ส.ปลายกำลังทำตามคำสั่งจังหวะนั้น มีคนโทรเข้ามาหานายอ๊อดพอดี นายอ๊อดจึงให้คนมาส่ง น.ส.ปลาย ที่บ้านช่วงค่ำวันที่ 20 ต.ค.65 เมื่อแม่ทราบเรื่องจึงพา น.ส.ปลายเข้าแจ้งความที่ สภ.เชียงแสน ตำรวจส่งตรวจร่างกายและสอบปากคำเบื้องต้นแล้ว ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยติดตามคดีให้ด้วย เนื่องจากเกรงว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้จะย้อนมาทำร้ายลูกสาวอีก

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมะโน ผกก.สภ.เชียงแสน และ น.ส.ภาณี จันทร์ตัน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงราย จัดสอบสหวิชาชีพ น.ส.ปลาย ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดทั้ง 3 คน

วันที่ 12 พ.ย.65 ศาลจังหวัดเชียงราย ออกหมายจับ นายอ๊อด ข้อหา กระทำชำเรา, ทำร้ายร่างกาย และร่วมกันพากันไปเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นโดยใช้กลอุบายล่อลวง และได้จับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว ขณะที่ น.ส.ออย อายุ 18 ปี และ ด.ช.วาย อายุ 14 ปี แจ้งข้อหา ร่วมกันพากันไปเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นโดยใช้กลอุบายล่อลวง ซึ่งตอนนี้ น.ส.ออย ติดโควิดอยู่เมื่อหายแล้วจะนำตัวมาดำเนินคดี ส่วน ด.ช.วาย ถูกควบคุมตัวอยู่ในสถานพินิจเนื่องจากมีคดีลักทรัพย์ โดยพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน จะได้ไปแจ้งข้อหาในวันที่ 14 พ.ย.นี้ต่อไป

สำหรับเคสนี้มูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามคดีและให้การช่วยเหลือดูแลสภาพจิตใจร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ผู้เสียหายได้ดำเนินชีวิตเป็นปกติสุขต่อไป.