เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์  ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วยครอบครัวผู้เสียหายจากกรณีถูกกลุ่มเด็กช่างกลจับ 3 วัยรุ่น รุมทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธปืนข่มขู่ บังคับให้อมนกเขา เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อขอให้รับทำคดีถูก 17 วัยรุ่น อุ้มไปกักขัง ทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธปืนข่มขู่ บังคับให้อมนกเขา ย่านรามคำแหง 63 เนื่องจากมีการใช้อาวุธสงครามมาใช้ในการก่อเหตุ กระทำการอุกฉกรรจ์ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ลักษณะเป็นอั้งยี่ซ่องโจร โดยขอให้ขยายผลไปถึงกฎหมายฟอกเงินแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย โดยมี พ.ต.อ.สมิง รอดรัตษะ รอง ผบก.ทว. ในฐานะตำรวจเวรอำนวยการ เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

ทนายรณรงค์ กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะพฤติกรรมโหดร้ายเกินกว่าเด็กอายุ 17 ปี รวมถึงควรพิจารณาเอาผิดผู้ปกครองของผู้ก่อเหต ในฐานะที่เป็นพ่อแม่ไม่ห้ามปราม พร้อมขอให้มีการตรวจสอบและเอาผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร เพราะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ควรตรวจสอบว่าเด็กเหล่านี้นำเงินจากไหนมาซื้ออาวุธปืนสงครามได้ และได้มาอย่างไร ตอนนี้ก็ยังมีการโพสต์แชร์ภาพอาวุธปืนกลอยู่ พร้อมเรียกร้องให้ดารานักแสดงสาวชื่อดังรายหนึ่ง ที่นามสกุลเดียวกับหนึ่งในวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ออกมาชี้แจงว่าเป็นหลานจริงหรือไม่ หลังผู้ก่อเหตุให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าเป็นหลาน  

ทนายรณรงค์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินรับได้ และควรผู้ต้องหาควรถูกดำเนินตามตามกฎหมายในแบบผู้ใหญ่ ไม่ควรจบที่ศาลเยาวชนเท่านั้น ครอบครัวผู้เสียหายยังคงรู้สึกหวาดกลัว เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุยังลอยนวลไปฉลองวันเกิดอยู่ ส่วนตัวรับไม่ได้กับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบกลุ่มผู้ก่อเหตุยังมีคดีเก่าติดตัว หลังร่วมกันใช้มีดแทงคู่อริ เมื่อเดือนธันวาคม 2564 

แม่ของเยาวชน กล่าวว่า อยากให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด มีความมั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องผ่านไปอย่างที่หวังและจะสู้จนถึงที่สุด โดยเมื่อวานนี้ได้พูดคุยรายละเอียดกับทางกระทรวงยุติธรรมไปเยอะแล้ว หลังจากยื่นเรื่องจะไปที่ สน.หัวหมาก ต่อ ส่วนสภาพจิตใจของลูกตั้งแต่วันเกิดเรื่องจนถึงวันนี้ น้องดีขึ้น ยิ้มได้ แม่อุ่นใจขึ้นเยอะ แต่ยังกังวลและกลัวถึงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัว ทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ทั้งนี้ ยังไม่มีการข่มขู่ แม่เลือกที่จะไม่อ่านหรือเข้าโซเชียล เพราะต้องเยียวยาจิตใจตัวเอง ทั้งนี้ อยากถามผู้ก่อเหตุว่า ถ้าลูกคุณโดนแบบนี้คุณจะทำอย่างไร.