จากกรณีนายอาทิตย์ คูณผล อายุ 66 ปี รองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี อยู่บ้านเลขที่ 306 ถนนศรีณรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับมอบอำนาจจากนางสาวพิศทยา ไชยสงคราม นายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ให้มาร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดไม่ทราบเป็นใคร ซึ่งได้โอนเงินจากบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง และบัญชีกระแสรายวัน ชื่อบัญชีเทศบาลนครอุบลราชธานี โดยมีเงินถูกโอนไปจากทั้งสองบัญชี แล้วโอนเข้าไประบบแห่งหนึ่ง รวม 2,029 ครั้ง โดยมียอดการโอนตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักแสนบาท ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 ถึง วันที่ 14 ต.ค. 65 รวมเป็นเงิน 39,042,839 บาท และระหว่างวันที่ 13 ต.ค. 65 ถึง 30 ต.ค. 65 มีเงินถูกโอนไปจากทั้งสองบัญชี แล้วโอนเข้าไประบบ รวม 2,000 ครั้ง รวมเป็นเงิน 19,515,131 บาท โดยรวมเป็นเงินถูกโอนไป ทั้งหมด 58,557,970 บาท สงสัยว่าน่าจะมีการโจรกรรมข้อมูลบัญชีธนาคารเพื่อลักลอบทำธุรกรรมดังกล่าว ทางเทศบาลฯ จึงมีความประสงค์ดำเนินคดีถึงที่สุดกับผู้กระทำความผิด นั้น

เงินเทศบาลนครอุบลฯ หายเพิ่มรวม 58 ล้าน เชื่อ ‘เกลือเป็นหนอน’ สั่งห้ามหยุด-ลาออก

เทศบาลนครอุบลฯ วุ่น! เงิน 39 ล้านโดนแฮกโอนเข้าบัญชีซื้อขายสินค้าชื่อดัง

คืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พ.ย. นายอาทิตย์ คูณผล รองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี ในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากนายกเทศบาลนครอุบลฯ ให้กำกับดูแล สำนักการคลังเทศบาลนครอุบลฯ เปิดเผยความคืบหน้าของคดี ว่า ตามที่ได้มอบหมายให้นายสุรศักดิ์ สุระวงศ์ นิติกรชำนาญพิเศษ และนายเรืองวิทย์ โหตระไวศยะ นิติกรปฏิบัติการ มาแจ้งความเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 65 และวันที่ 17 พ.ย. 65 นั้น เนื่องจากข้อความที่แจ้งความไม่ตรงตามความประสงค์ของผู้มอบอำนาจ จึงขอยกเลิกการแจ้งความทั้งหมด และใช้ข้อความดังต่อไปนี้แทน “เทศบาลนครอุบลราชธานีฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งหนึ่ง บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน และบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ จากการตรวจสอบเดือน ต.ค. 65 เงินหายจากบัญชีประมาณ 19 ล้านบาทเศษ และเดือน พ.ย. 65 เงินหายจากบัญชีประมาณ 39 ล้านบาทเศษ รวม 2 เดือน เป็นเงินประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดจากความบกพร่องของระบบธนาคารและหรือผู้จัดการและผู้ใต้บังคับบัญชา จึงมาแจ้งความเพื่อให้ธนาคารคืนเงินให้เทศบาลนครอุบลราชธานีและให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี แจ้งข้อกล่าวหาและเรียกบุคคลดังกล่าวมาสอบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป”

นายอาทิตย์ เผยอีกว่า ตอนนั้นข้อมูลทางเรายังตรวจสอบไม่ชัดเจน เราก็รีบไปแจ้งความเพราะว่าเงินเราที่ฝากไว้ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง แต่เมื่อมาตรวจสอบแล้ว ทางเราก็รีบไปแจ้งความแต่เมื่อมาตรวจพบความผิดปกติอยู่ 2 ประเด็น ได้แก่ประเด็นที่ 1.หลักเกณฑ์เงื่อนไขในการฝากเงินกับระบบออนไลน์ เมื่อเงินถูกโอนออกจากบัญชี กรณีที่ได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจแล้วระบบมันจะแจ้งเตือนขึ้นมายังมือถือหรือว่าเครื่องของเจ้าหน้าที่ที่โอน ส่วนประเด็นที่ 2.ในการโอนที่ถูกต้องจะไม่มีค่าธรรมเนียม แต่ข้อสังเกตที่เราพบเงินที่หายไปทั้งหมดไม่มีการแจ้งเตือน แต่ปรากฏว่ามีค่าทำเนียมทุกรายการรายการละ 10 บาท ซึ่งธนาคารต้องรับผิดชอบ เราจึงไปดำเนินการแจ้งความกับธนาคาร และขณะนี้ทางเทศบาลนครอุบลฯ ได้ยกเลิกเรื่องบัญชีเงินทั้งหมดกับธนาคารดังกล่าว ทางเทศบาลนครอุบลฯ เปลี่ยนไปทำทำธุรกรรมการเงินกับอีกธนาคาร และจะใช้ระบบเดิมโดยใช้ระบบการเขียนเช็คแบบเดิม แทนระบบการเบิกจ่ายเงินแบบระบบออนไลน์

ทั้งนี้ พ.ต.ท.รุ่งทวี นาปาน สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลฯ ได้รับคำร้องทุกข์ไว้และจะได้สอบสวนต่อไป.