เมื่อวันที่ 26 พ.ย. จากกรณีแม่พลทหารนายหนึ่ง ใน จ.อุทัยธานี ร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย หลังถูกพลทหารที่ต้องโทษด้วยกันถึง 11 คน รุมทำร้ายในเรือนจำ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงเกรงว่าคดีจะเงียบหาย และลูกชายจะตายฟรี ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่วัดทุ่งหลวง ต.ทุ่งพง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี พบกับนางสมศรี วงศ์จันทร์ อายุ 44 ปี แม่ของพลทหาร ขจรศักดิ์ ศรียากูล อายุ 24 ปี ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการจัดงานศพให้กับลูกชาย ก่อนจะทำการฌาปนกิจศพลูกชายในเวลา 15.00 น. วันนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติพี่น้องในครอบครัว มาคอยช่วยกันจัดเตรียมงาน

นางสมศรี กล่าวว่า พลทหารขจรศักดิ์ เป็นลูกชายคนโต ได้รับการสมัครเป็นทหารเกณฑ์ ผลัด 2 เมื่อปี 63 ก่อนถูกส่งไปสังกัดกอง สพบ.พล.ร.4 ต่อมาปี 64 พลทหารขจรศักดิ์ได้ลาพักไปเยี่ยมภรรยาที่ จ.สุโขทัย แล้วเกิดไปกระทำความผิดคดีลักทรัพย์เงิน 500 บาท ทำให้ถูกตำรวจจับกุมตัว ส่งกลับไปยังต้นสังกัด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายของทหาร ก่อนถูกศาลทหารตัดสินให้ต้องโทษเรือนจำที่ค่ายทหารทั้งหมด 13 เดือน ซึ่งจะพ้นโทษในวันที่ 15 ธ.ค. 65 โดยหากลูกชายไม่ได้รับลงโทษดังกล่าว ก็จะได้รับการปลดจากทหารเกณฑ์ในวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา

นางสมศรี กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ ตนโทรศัพท์ไปเยี่ยมพลทหารขจรศักดิ์ เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย. โดยพูดคุยกันเรื่องการพ้นโทษและปลดประจำการ จากนั้นวันที่ 10 พ.ย. ตนได้โทรฯ กลับไปสอบถามจ่า เรื่องวันพ้นโทษของลูกที่แน่ชัดว่าจะได้พ้นโทษวันไหน จ่าบอกว่าขอไปถามที่เรือนจำก่อน กระทั่งวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา จ่าคนดังกล่าวได้โทรศัพท์มาบอกว่า ลูกชายของตนจะได้ออกจากเรือนจำในวันที่ 15 ธ.ค. นี้ แต่ช่วงเช้าของวันที่ 21 พ.ย. ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้บัญชาการเรือนจำว่า จะเข้ามาเยี่ยมหาตนที่บ้าน ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกตกใจและถามกลับไปว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า พลทหารกระทำอะไรผิดหรือไม่ หรือเกิดเหตุอะไรกับพลทหาร

พอหลังจากวางสายจากผู้บัญชาการเรือนจำแล้ว ทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้โทรฯ หาตนเองพร้อมกับบอกว่า ให้โทรฯ ไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พิษณุโลก พอหลังจากที่ตนโทรฯ ไปแล้วก็ได้คำตอบว่า ลูกชายตนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ตอนนั้นตกใจมาก หลังจากนั้นก็มีหน่วยงานทางทหารมารับตนเองที่บ้านที่ จ.อุทัยธานี เพื่อเดินทางไปยัง จ.พิษณุโลก โดยได้แวะไปที่โรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อไปพบแพทย์ และได้รับแจ้งจากคุณหมอว่า ลูกชายตนเองได้รับบาดเจ็บจากถูกทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามที่หนังสือรับรองการตายจากโรงพยาบาลดังกล่าว

ตนได้เข้าไปพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาของลูกชายที่เรือนรับรองในค่ายเกี่ยวกับเรื่องการเสียชีวิตของลูกชาย โดยผู้บังคับบัญชาได้เล่าถึงเหตุว่า ลูกชายตนถูกพลทหารที่ต้องโทษด้วยกันรุมทำร้าย 11 คน และทั้ง 11 คนนั้น ทางหน่วยงานได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมและดำเนินคดีดังกล่าวแล้ว ส่วนสาเหตุที่ลูกชายถูกพลทหารทั้ง 11 คน ที่เป็นนักโทษด้วยกันรุมทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น ทราบสาเหตุว่า มาจากลูกชายของตนนั้น ไปหยิบฉวยกาแฟของพลทหารกลุ่มนั้นมากิน 2 ซอง จึงถูกรุมซ้อมทำร้ายจนเจ็บหนักและเสียชีวิต หลังรู้สาเหตุก็ยอมรับว่า ยังทำใจไม่ได้ ทำไมลูกชายตนต้องมาจบชีวิตเพียงเพราะกาแฟแค่ 2 ซอง เท่านั้นจริงๆ หรือ ทำไมคนเราถึงใจคอโหดร้ายกันได้ถึงขนาดนี้

หลังเกิดเหตุการณ์ ทางค่ายทหารและทางเรือนจำก็ได้เข้ามาร่วมงาน พร้อมกับรับปากว่าจะให้การช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่ ซึ่งตอนแรกตนเองก็กังวลใจในเรื่องการเยียวยา เพราะเคยเห็นจากหลายๆ ข่าวที่ผ่านมา หลังเผาศพไปแล้วเรื่องก็เงียบหาย จึงกลัวว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตนเองด้วยเหมือนกัน แต่หลังจากที่ทางผู้บัญชาการได้เข้ามาตกปากรับคำและยืนยันว่าจะดูแลด้วยเกียรติ ทำให้ตนเองเบาใจลงไปบ้าง เพราะมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ตนเองจะทำให้กับลูกชายคนนี้ได้แล้ว โดยช่วงบ่ายวันนี้ ทางผู้บัญชาการจะนำเงิน 200,000 บาท ซึ่งมาจากพลทหารที่ก่อเหตุทั้ง 11 ราย มามอบให้กับครอบครัว ส่วนเรื่องการเยียวยาในส่วนอื่นๆ นั้น จะทำการพูดคุยให้แน่ชัดอีกครั้ง