จากกรณี นายวรรณา รอดพิทักษ์ หรือ “ส.จ.เปี๊ยก” อายุ 69 ปี รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ฉะเชิงเทรา ถูกนายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ตบหัวพร้อมด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ระหว่างพบกันในงานศพที่วัดทุ่งส่อหงษา หมู่ 11 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 และมีการแจ้งความดำเนินคดี นั้น
     
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายสุชาติ กล่าวว่า นายวรรณา หรือ “ส.จ.เปี๊ยก” เคยเป็นลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งของตน ตามปกติเวลานายวรรณามาหา จะแสดงความเคารพกราบตัก เพราะว่าเคยช่วยชีวิตนายวรรณาไว้ เมื่อครั้งถูกยิงเกือบถึงชีวิต และยังดูแลครอบครัวของ ส.จ.เปี๊ยก เป็นอย่างดี เมื่อพบหน้าครั้งนี้ก็เป็นเป็นฝ่ายเข้าไปทักทาย ได้ใช้มือเคาะไปที่หัวในลักษณะที่ไม่ได้รุนแรง แต่เป็นการสัพยอกไปว่าได้ยินว่า ส.จ.เปี๊ยก ชอบพูดจาว่าร้าย ก็เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่ หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายอย่างที่ ส.จ.เปี๊ยก พยายามกล่าวหา เรื่องนี้สามารถสอบถามผู้ที่อยู่ในงานได้ว่า เหตุการณ์เป็นอย่างไร เพราะทราบว่าในเฟซบุ๊กก็มีผู้ที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปคอมเมนต์ถึงข่าวที่มีการนำเสนอในสื่อท้องถิ่นว่า เป็นเพียงการทักทายกันเท่านั้น ดังนั้นที่ ส.จ.เปี๊ยก บอกว่า จะไปแจ้งความนั้น อาจจะเป็นการแจ้งความเท็จ

“ต้องถาม ส.จ.เปี๊ยก ว่าเหตุที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ทำลายชื่อเสียงคนที่มีบุญคุณกับชีวิต และทุกๆครอบครัวของ ส.จ.เปี๊ยก เป็นไปในลักษณะที่ชาวบ้านพูดกันและเรียกว่าเนรคุณใช่หรือไม่ เพียงเพราะต้องการผลประโยชน์ส่วนตัวที่รับใช้กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามและในด้านการเมืองหรือเปล่า” 

นายสุชาติ ยังกล่าวว่า ถ้ามีการทำร้ายร่างกาย และต่อว่าหยาบคายใส่ ส.จ.เปี๊ยกจริง คงเป็นไปไม่ได้ เพราะ ส.จ.เปี๊ยก ไปร่วมงานนี้มีลูกน้องที่มีลักษณะคล้ายพวกมือปืน ขับรถติดตามอีก 3-4 คัน ขณะเกิดเหตุก็ยืนอยู่ด้านหลังงาน เฝ้าคอยระวังให้อยู่ตลอด จึงยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการทำร้ายร่างกายและข่มขู่ตามที่ ส.จ.เปี๊ยก กล่าวหา และอยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ด้วยว่า ช่วงนี้ใกล้ถึงการเลือกตั้งใหญ่ ควรจะเข้มงวดกวดขันตรวจตราอาวุธปืน และอาวุธสงคราม ตลอดจนตรวจสอบประวัติมือปืนต่างๆ ให้เป็นตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ด้วย

ผู้สื่อข่าวงานเมื่อเวลาเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน ส.จ.เปี๊ยก ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.นุรัตน์ จันทะคุณ สว.(สอบสวน) สภ.สนามชัยเขต ว่าถูกนายสุชาติใช้มือตบบริเวณศีรษะเหนือใบหูด้านซ้าย ขณะไปร่วมงานณาปนกิจศพที่วัดทุ่งส่อหงษา ขณะนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านหน้า เพื่อรอการขึ้นไปทอดผ้าบังสุกุล ต่อหน้าผู้ที่มาร่วมงานจำนวนมาก ตำรวจจึงไดืสอบปากคำและให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย ที่ รพ.สนามชัยเขต และเดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุ ประกอบหลักฐานการแจ้งความ โดยตำรวจได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 

ทั้งนี้ ส.จ.เปี๊ยก ให้การว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ตนไปร่วมงานฌาปนกิจศพและนั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านหน้า ระหว่างนั้นได้มีนายสุชาติเดินลงจากรถยนต์มาร่วมงานด้วย พอนายสุชาติเห็นตนนั่งอยู่จึงเดินปรี่เข้าหา พร้อมพูดด้วยเสียงดังว่า “ไอ้เหี้ยเปี๊ยกมึงชอบด่ากู” พร้อมกับยกมือตบหัวตน 1 ครั้ง ถูกบริเวณกกหูด้านซ้าย ต่อหน้าประชาชนที่มาร่วมงานจำนวนมาก คนเป็นนักการเมือง มาแสดงอำนาจบาตรใหญ่ได้อย่างไร จริงๆคนเราต้องถามกันก่อน แต่นี่ถือว่ากูใหญ่ แสดงความข่มขู่ต่อหน้าประชาชนมากมายที่มาร่วมงาน ถือเป็นการกระทำอันไม่สมควร ไม่ให้เกียรติกับเจ้าภาพงานศพเป็นอย่างยิ่ง หลังจากที่ผมทอดผ้าเสร็จกำลังเดินทางกลับ ยังมีรถต้องสงสัย 3 คัน ขับตามประกบรถคันที่ตนนั่ง เหมือนเป็นการข่มขู่ให้เกิดความหวาดกลัว ตนเป็นรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ยังโดนแบบนี้ ไม่อยากจะคิดว่าแล้วถ้าประชาชนธรรมดา มิโดนรังแกตามใจชอบหรือครับ ตอนนี้มันยุคสมัยไหนแล้ว ยังมีนักการเมืองที่บ้าอำนาจ แสดงอิทธิพลไม่เลือกที่ ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกไม่ควร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าแจ้งความดังกล่าว ได้มีผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนเกือบร้อยคนเข้ามาให้กำลังใจ ส.จ.เปี๊ยกด้วย