เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านกระเบื้อง ต.หนองชัยศรี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ว่า เด็กหญิงวัย 14 ปี นำหลักฐานเป็นใบสูติบัตร ไปขอทำบัตรประจำตัวประชาชน แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธการทำบัตรประชาชนให้ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ น.ส.วิไล ทองตัน อายุ 40 ปี อยู่เลขที่ 1 หมู่ 4 ต.หนองชัยศรี อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และเด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย

โดย น.ส.วิไล ได้นำหลักฐานเป็นสูติบัตร (ตัวจริง) สำเนารับรองผลการเรียน สำเนาสำรองการเป็นนักเรียน และสำเนาประจำตัวบัตรนักเรียน ระบุชื่อ ด.ญ.ผกาวรรณ ทศคีรี อายุ 14 ปี มาเป็นหลักฐาน

โดย น.ส.วิไล กล่าวว่า ตนเป็นชาว จ.อุดรธานี อยู่กินกับสามีชาวเชียงราย แล้วได้แยกทางกันอยู่ ตั้งแต่ลูกสาวคลอดได้ไม่นาน หลังจากนั้นสามีไปทำงานประเทศเกาหลี แล้วไม่เคยกลับบ้านเลย ส่วนลูกสาวให้ปู่กับย่าเลี้ยงที่ จ.เชียงราย ซึ่งตนกับลูก ได้ขาดการติดต่อกันมาตั้งแต่บัดนั้น ต่อมาตนได้สามีใหม่ย้ายมาอยู่ที่ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้มีคนแอดเข้ามาเป็นเพื่อนในเฟชบุ๊ก ตนก็รับไว้ จนกระทั่งมารู้ว่า คนที่แอดมาเป็นเพื่อนคนล่าสุด เป็นลูกสาวของตนเอง ต่อมาได้พูดคุยกันประสาแม่ลูก สาเหตุที่ลูกได้แอดเข้ามา เพราะค้นหาจากชื่อแม่ในใบเกิด

โดยลูกสาวได้เล่าปัญหาให้ฟังว่า ตอนนี้ยังไม่มีบัตรประชาชน เพราะไม่มีพ่อแม่พาไปทำบัตรให้ จึงให้ลูกสาวนั่งรถทัวร์จาก จ.เชียงราย มาที่ จ.บุรีรัมย์ รวมระยะทางร่วม 1,000 กม. เพื่อหวังจะให้แม่มารับรองให้ทำบัตรประชาชนได้ ยอมรับว่าเห็นลูกครั้งแรกดีใจกอดกันร้องไห้ ระหว่างไปรับที่สถานีขนส่ง ด้วยความดีใจทั้งแม่ทั้งลูก รุ่งเช้าได้นำหลักฐานที่มีอยู่ไปที่ที่ว่าการอำเภอ เพื่อขอทำบัตรประจำตัวประชาชน แต่ได้รับคำตอบว่าทำไม่ได้ จะต้องไปทำที่จังหวัดเชียงราย ตนงงมาก เพราะมีหลักฐานครบถ้วน เจ้าหน้าที่ระบุว่า “หน้าแม่กับหน้าลูกไม่เหมือนกัน”

จากนั้นได้พยายามวิ่งเต้นไปปรึกษาผู้ใหญ่บ้าน ได้รับคำแนะนำว่า ให้ย้ายลูกมาที่ อ.หนองหงส์ ก่อน เพื่อทำตามกระบวนการขั้นตอนของฝ่ายทะเบียนราษฎร์ จึงย้ายปลายทางที่ อ.หนองหงส์ เพื่อขอทำบัตรประจำตัวประชาชน แต่เจ้าหน้าที่ยืนยัน “ทำไม่ได้” ตอนนี้วิ่งเต้นมา 2-3 ครั้งแล้ว ได้รับคำตอบเดิมคือทำไม่ได้

น.ส.วิไล บอกด้วยว่า จากที่ตนสอบถามมา ประชาชนคนไทย สามารถทำบัตรประจำตัวประชาชน ได้ทั่วประเทศ ขนาดคนต่างประเทศกลุ่มธุรกิจสีเทา ยังยื่นเรื่องเป็นสัญชาติไทยได้เลย แต่นี่ตนเป็นคนไทย มีหลักฐานชัดเจน แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า “ต้องเอาเอกสารตัวจริงมาเท่านั้น” จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานราชการไทย ช่วยทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ เพราะข้อมูลทะเบียนราษฎร์ มันเชื่อมโยงกันทั้งประเทศอยู่แล้ว ตรวจสอบได้ทั้งหมด และสามารถยกเลิกได้ หากตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง

ด้าน น.ส.วสุนันทา ละเอียด ปลัดอำเภอ หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอหนองหงส์ กล่าวว่า ทางอำเภอ ทำไปตามขั้นตอน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้แน่นอน หากตรวจสอบได้ว่าเป็นคนไทย ทางอำเภอพร้อมจะดำเนินการให้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนายอำเภอว่า จะอนุมัติหรือไม่