เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงความคืบหน้ากรณีขอให้ตรวจสอบเรื่องความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 65 ได้มีการยื่นญัตติด่วนด้วยวาจาในเรื่องดังกล่าว แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เรื่องนี้ถูกปัดตกไปโดยสภา ไม่ให้ตรวจสอบเรื่องใหญ่ที่มีส่วนต่างถึง 68,613 ล้านบาท ในการประมูล 2 ครั้ง เราเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในส่วนของพรรคก้าวไกล ได้ส่งหนังสือผ่านทางไปรษณีย์ให้รัฐมนตรีทุกคนที่อยู่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ได้รับทราบขอเท็จจริงว่าจะมีความเสียหายเกิดขึ้น หาก ครม. ไม่ติดใจ ไม่ตรวจสอบ จะอนุมัติไปก็ให้ประชาชนได้เห็นว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้

นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนได้ตั้งประเด็นไว้ 7 ประเด็น ที่รัฐบาลจะต้องชี้แจงให้ชัดเจนก่อนอนุมัติได้แก่ 1.การเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศ แบบส่งผลอย่างมีนัยยะสำคัญต่อการแพ้ชนะการประมูล 2.การยกเลิกการประมูลครั้งก่อน โดยที่ศาลปกครองมีคำพิพากษาว่า การยกเลิกการประมูลดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย 3.การกีดกันการแข่งขันโดยไม่ให้ บีทีเอส มีสิทธิเข้าประมูลรอบใหม่ ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงคือประเทศไทย มีผู้ประกอบการเดินรถรายใหญ่เพียง 2 ราย

4.คุณสมบัติต้องห้ามของผู้ผ่านการพิจารณาข้อเสนอด้านคุณสมบัติ กรณีคณะกรรมการคัดเลือกปล่อยให้ ไอทีดี ผ่านมาเป็นคู่เทียบ ทั้งที่ติดปัญหาด้านคุณสมบัติอยู่ 5.การคิดราคากลาง 91,983 ล้านบาท แบบอุปโลกน์ว่าส่วนแบ่งรายได้ในอนาคตเป็นศูนย์ แล้วค่อยมาตัดสินกันด้วยการแข่งขัน ซึ่งมันไม่มีอยู่จริง

6.ความพยายามของคณะกรรมการคัดเลือกในการรักษาผลประโยชน์ให้กับรัฐ ในการเจรจาต่อรอง และ 7.ส่วนต่าง 68,613 ล้านบาทนั้นมีอยู่จริง ต้องไปพิสูจน์ทราบให้ได้ว่า ทำไมการประมูลรอบแรก หาก บีทีเอส ชนะ รัฐจะอุดหนุนเพียง 9,675 ล้านบาท แต่ในการประมูลรอบสอง ซึ่ง บีอีเอ็ม ชนะ รัฐต้องอุดหนุนมากถึง 78,288 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ในทางเทคนิคก็คือสร้างสิ่งเดียวกัน คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม แบบการก่อสร้างไม่ได้เปลี่ยน ความยาวเท่าเดิม และจำนวนสถานีเหมือนเดิม ก็ขอให้ประชาชนติดตามในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประชาชน