เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ร.ต.อ.สุปัญญา แก้วเชื่อ  รอง สว.(สอบสวน)สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า วานนี้ ( 15 ธ.ค.)ได้รับแจ้งจาก สายตรวจตำรวจทางหลวง สถานีตำรวจทางหลวง 5 กองบังคับการ 2 ว่าขณะทำการขับลาดตระเวนบนถนนสาย 44 สุราษฎร์-กระบี่ได้พบรถยนต์กระบะจอดอยู่ริมถนนในลักษณะไม่เข้าข้างทาง อยู่หน้าศาลาที่พักริมทางขามุ่งหน้า จ.กระบี่ พื้นที่ ม.2 ต.อรัญคามวารี   อ.เคียนซา เมื่อตรวจสอบพบว่าภายในมีผู้เสียชีวิตจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อานุภาพจันดิถวงค์ ผกก.สภ.เคียนซา พ.ต.อ. ธาดา เพชรกาฬ รอง ผบก.ศูนย์พิสูจณ์หลักฐาน 8เจ้าหน้าที่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธา อ.เคียนซา

ที่เกิดเหตุเป็นศาลาริมทางริมถนนสายเซาร์เทิร์น ขามุ่งหน้า จ.กระบี่ พบรถกระบะ มิตซุบิชิ สีเทาแบบ 2 ตอนหมายเลขทะเบียน กฉ 3864 ชุมพร สภาพประตูปิดล็อกทั้ง4 ด้าน ตรวจสอบเบื้องต้นภายในมีผู้โดยสาร 2 คนในลักษณะเอนเบาะนอนอยู่บนเบาะนั่งด้านหน้า จึงได้ปลุกเรียก แต่ไม่ขานรับเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเปิดประตูรถออกมา ปรากฏว่าทั้ง 2 ไม่ได้สติ และพบว่าผู้โดยสารที่เป็นหญิง ซึ่งเอนนอนอยู่เบาะข้างคนขับได้เสียชีวิต ส่วนผู้ชายที่เอนนอนอยู่ที่เบาะคนขับยังสามารถจับชีพจรได้ จึงได้เร่งนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเพื่อให้การช่วยเหลือและนำศพผู้เสียชีวิตส่งตรวจนิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อชันสูตรหาสาเหตุอย่าละเอียดอีกครั้ง

จากการตรวจสอบภายในรถ พบเตาอั้งโล่ถูกวางอยู่ที่วางเท้า สภาพไฟมอด ผ้ายางรองพื้นรถละลายติดกับเตาอั้งโล่ และพบยาเม็ด2 ชนิดประมาณ 5-6เม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม.พร้อมกระสุน 20นัด นอกจากนั้นมีเสื้อผ้า และรองเท้าคอมเบ็ต 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ 2 ใบพบ1 ใบมีเอกสารบัตรประชาชนระบุชื่อนายสายชล  อายุ 43 ปี เป็นชาว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เป็นทหารพราน ร้อย ทพ.4511 กรมทหารพราน 45  ส่วนอีกใบคาดว่าเป็นของผู้หญิงไม่มีเอกสารใด ๆและยังพบสมุดโน้ต ถูกบันทึกด้วยลายมือ ระบุข้อความว่าถูกโกงจนเป็นหนี้หลายล้านเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บเป็นหลักฐาน

จากการสืบสวนเบื้องต้น ทราบจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียงว่าพบรถคันดังกล่าวขับเข้ามาจอดตั้งแต่เวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้มีใครสนใจเนื่องจากบริเวณศาลาที่พักริมถนนมักจะมีผู้ใช้เส้นทางจอดพักผ่อนอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นศาลาที่พักที่อยู่ใกล้ชุมชน

ด้าน พ.ต.อ.อานุภาพ จันดิถวงค์  ผกก.สภ.เคียนซา กล่าวว่าเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุมาจากการรมควันฆ่าตัวตาย แม้ว่าในการตรวจสอบภายในรถจะพบบันทึกที่ระบุถึงปัญหาหนี้สินก็ตาม ส่วนผู้หญิง ซึ่งเสียชีวิต ขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อเนื่องจากนายสายชล ยังไม่สามารถให้ปากคำได้