เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. พล.ร.อ.อะดุง พันธ์ุเอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวถึงความคืบหน้า เรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเล ว่า จากที่ได้พูดคุยกับ น.ท.พิชิตชัย เถื่อนนาดี ผู้บังคับการเรือหลวงสุโขทัย ทราบว่า เรือออกจากสัตหีบ และลอยลำอยู่กลางทะเล 1 วัน จากนั้นก็เจอพายุที่มีคลื่นลมแรงมาก โดยผู้การเรือ ยืนยันว่า ในรอบ 10 ปี ไม่เคยเจอมาก่อน และในระหว่างนั้นได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามลำดับ ครบทุกขั้นตอน และแจ้งขอเดินเรือกลับสัตหีบแต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากติดปัญหาคลื่นลมแรง จึงขอเข้าจอดจุดหลบที่บางสะพาน แต่ไปไม่ถึงเป้าหมาย

“เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เริ่มจากกาบเรือด้านซ้ายเอียงก่อน ทำให้ไม่สามารถปล่อยแพชูชีพได้ ในขณะที่กาบขวาก็เผชิญกับคลื่นลมแรงอีก การเปิดใช้แพชูชีพ เป็นไปค่อนข้างลำบาก ผู้การเรือ ยืนยันว่า ได้ทำตามทุกขั้นตอนแล้ว พยายามเต็มที่ในการแก้ปัญหาในนาทีวิกฤติ แล้วประคองเรือไม่ให้จม จนสุดความสามารถ จนสุดท้ายต้องสละเรือ” พล.ร.อ.อะดุง กล่าว

สำหรับกำลังพลบนเรือหลวงสุโขทัย มีทั้งหมด 106 นาย  ประมาณกว่า 70 คน เป็นกำลังพลประจำเรือ เช่น ผู้การเรือ รองผู้การเรือ ต้นเรือ ช่างเครื่อง กำลังพลประจำหมวดปืน กำลังพลกาบซ้าย กำลังพลกาบขวา อีก 30 กว่าคน ไม่ใช่กำลังพลประจำเรือ แต่มาจาก หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ส่วนที่สูญหาย 30 นาย มีทั้งกำลังพลประจำเรือ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) นาวิกโยธิน และพลทหาร

“ผู้การเรืออยู่บนเรือและรอดชีวิตจากการจมน้ำมาเหมือนกัน และได้ทำหน้าที่ครบถ้วนอย่างสมบูรณ์ ส่วนผู้สูญหาย ตราบใดที่ยังไม่เจอ เรายังมีความหวังว่า ทุกท่าน 30 นาย ยังมีชีวิต เราจะค้นหาวันต่อวันจนกว่าจะเจอ ควบคู่ประเมินสถานการณ์เป็นระยะ” พล.ร.อ.อะดุง กล่าว

อย่างไรก็ตาม กำลังพลที่อยู่บนเรือ มีจำนวน 106 นาย แบ่งเป็น กำลังพลประจำเรือหลวงสุโขทัยมี 76 นาย ช่วยเหลือได้ 58 นาย หาย 18 นาย กำลังพลนาวิกโยธิน มีจำนวน 15 นาย ช่วยเหลือได้ 7 นาย หาย 8 นาย กำลังพลจาก สอ.รฝ. จำนวน 15 นาย ช่วยเหลือได้ 11 นาย หาย 4 นาย รวมกำลังพลที่ช่วยเหลือได้ 76 นาย หาย 30 นาย.