เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีตู้ห่าว ว่า ขณะนี้อัยการสูงสุดได้ออกคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาคณะแรก ซึ่งมีอัยการสูงสุดและตนเป็นที่ปรึกษา มีรองอัยการสูงสุดเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งจะมีทีมงานอัยการเป็นส่วนใหญ่ มีผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นคณะทำงาน คณะนี้จะมากำกับดูแลตรวจสอบแนะนำ เร่งรัดให้เป็นไปตามกรอบเวลาวางแนวทาง ต่อมาวันที่ 16 ธ.ค. 2565 ทางอัยการสูงสุดได้ออกคำสั่งว่าคดีนี้ได้มอบหมายให้ตนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ โดยแต่งตั้งให้พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด และกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นพนักงานสอบสวนร่วม ที่จะช่วยเหลือกองบัญชาการตำรวจนครบาล ทั้งนี้ ได้ออกคำสั่งไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อจะทำงานอยู่ภายใต้การดูแลของคณะของท่าน ซึ่งการสอบสวนจะร่วมกันระหว่างตำรวจและอัยการ ในส่วนของคดีหลักจินหลิง
ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนตำรวจที่เข้าไปพัวพันต่างๆ ตนไม่ได้ละเว้น ทั้งนครบาลที่พบว่ามีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องพัวพันช่วยเหลือได้ดำเนินคดีไปแล้ว 3 ราย มีรอง ผกก.จร.สน.ลาดพร้าว พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 นาย และรองผู้บังคับการนครบาล 6 ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานว่าอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานนำเสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ส่วนเรื่องของ ตม. ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของผู้ที่มาเที่ยวและเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนวีซ่า ได้แยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกตนได้สั่งการให้จเรตำรวจไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในภาพรวม และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ไปสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องจนพบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ซึ่ง 2 เรื่องนี้จะเป็นแนวทางเดียวกัน
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขอยืนยันว่าถ้าพบว่าใครกระทำความผิดเราจะต้องดำเนินการไปตามกฎหมายอย่างจริงจัง ไม่มีละเว้นใคร เป็นไปตามข้อเท็จจริงในเรื่องแต่ละเรื่อง สำหรับคดีจินหลิงขณะนี้ได้เร่งรัดการทำงานร่วมกันไม่มีวันหยุด ปีใหม่ก็ไม่หยุด ภายใต้กรอบเวลาในการทำงานของการฝากขังผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหารายแรกจะครบฝากขังในช่วงต้นเดือนมกราคม ส่วนของตู้ห่าวประมาณเดือนกุมภาพันธ์ แต่ทั้งนี้เราจะพิจารณาร่วมกับอัยการ ส่วนรายละเอียดในที่ประชุมได้หารือกันแล้วว่าเพื่อเป็นเอกภาพเรื่องนี้จะไม่ให้มีการสัมภาษณ์เรื่องความคืบหน้าหรือแนวทางในการทำคดี จะมอบหมายให้โฆษกอัยการเป็นผู้ชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจในแนวทางเดียวกัน หากถามคำถามอะไรตนอาจจะไม่ได้ลงในรายละเอียด แต่ขอยืนยันว่าคดีนี้ตำรวจได้ทุ่มเทสรรพกำลังจากหลายหน่วยงานและทำงานโดยไม่มีวันหยุด เราได้ทำงานอย่างเต็มที่ และตนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเอง.
