หลังจากเกิดเหตุช็อกวงการบอลลีวูด เมื่อ ทูนิชา ชาร์มา ดาราสาววัย 21 ปี เสียชีวิตในกองถ่ายทำภาพยนตร์เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2565 โดยสันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จับกุม ชีซาน ข่าน ดารานำฝ่ายชายและอดีตแฟนหนุ่มของ ชาร์มา โดยตั้งข้อสงสัยว่า เขาอาจมีส่วนกดดันให้เธอคิดสั้นจนผูกคอตายในห้องน้ำระหว่างช่วงพักการถ่ายทำ
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2565 ขณะที่กำลังถ่ายทำภาพยนตร์ซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง Ali Baba: Dastan-e-Kabul ซึ่ง ชาร์มา และ ข่าน รับบทนำของเรื่อง ดาราสาวก็ขอพักเข้าห้องน้ำและขังตัวเองอยู่ในนั้นนานผิดปกติ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุและพังประตูเข้าไป ก็พบว่าเธอแขวนคอตัวเอง เจ้าหน้าที่รีบนำตัว ชาร์มา ส่งโรงพยาบาล ซึ่งต่อมาก็มีการประกาศว่าเธอเสียชีวิตแล้ว
ฝ่ายตำรวจให้ข้อมูลว่าพบจดหมายลาตายของ ชาร์มา ในที่เกิดเหตุ ขณะที่ผลการชันสูตรที่ออกมาตอนเช้าวันที่ 25 ธ.ค. 2565 ระบุว่า ไม่มีร่องรอยบาดแผลที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บบนร่างของ ชาร์มา จากการสืบสวนและหลักฐานเบื้องต้น สรุปได้ว่าเธอเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ
ดาราหนุ่มวัย 28 ปี โดน วนิตา แม่ของ ชาร์มา กล่าวหา และยื่นฟ้องให้เจ้าหน้าที่จับกุมเขา โดยอ้างว่าเขาเป็นคนทำให้ ชาร์มา คิดฆ่าตัวตาย
หลังจากที่ลูกสาวเสียชีวิต วนิตา ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ ชาร์มา และ ข่าน เคยคบหากันฉันคนรัก แต่เพิ่งเลิกรากันไปเมื่อ 15 วันก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเสียชีวิต ซึ่ง วนิตา ระบุว่า ลูกสาวของเธอเสียใจมากที่ต้องยุติความสัมพันธ์กับ ข่าน
วนิตา กล่าวหาว่า ข่าน ล่อลวงลูกสาวของเธอให้ตกหลุมรัก พวกเขาคบหากันราว 3-4 เดือน โดยที่ฝ่ายชายให้สัญญาว่าจะแต่งงานกัน แต่แล้วเขาก็มีผู้หญิงอื่น และตัดสินใจสลัดเธอทิ้ง
นอกจากนี้ ลุงของ ชาร์มา ยังให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้าที่หลานสาวของเขาจะเสียชีวิตเพียง 10 วัน เธอต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการวิตกกังวลที่ส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่ง ชาร์มา ได้บอกเขาและแม่ของเธอว่า เธอโดนแฟนหนุ่มนอกใจและโดนหลอกใช้
ตำรวจอาศัยข้อมูลจากเอกสารการยื่นคำร้องขอให้จับกุมดาราหนุ่มของ วนิตา และได้ตั้งข้อหาแก่ ข่าน ตามหลักการของกฎหมาย IPC Section 306 ซึ่งเกี่ยวกับความผิดกรณียุยงหรือส่งเสริมให้บุคคลอื่นกระทำอัตวินิบาตกรรม ซึ่งทำให้ ข่าน ต้องขึ้นศาลในเมืองวาไซ และต้องโดนตำรวจคุมขังราว 4 วัน
อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจระบุว่า นอกเหนือจากประเด็นฆ่าตัวตายแล้ว ยังคงมีการสืบสวนว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่คดีนี้จะเป็นคดีประเภท ‘ญิฮาดเพื่อความรัก’ (Love Jihad) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง เนื่องจากคู่รักหรือคู่แต่งงานข้ามศาสนาระหว่างมุสลิมและฮินดู แต่ทีมตำรวจยืนยันว่า ไม่ว่าอย่างไร ครอบครัวของ ชาร์มา จะต้องได้รับความยุติธรรมเต็มร้อย
แหล่งข่าว : indianexpress.com, indiatoday.in
เครดิตภาพ : Instagram / _tunisha.sharma_
