เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 ม.ค. 66 ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.สุราษฎร์ธานี น.ส.จ๋า (นามสมมุติ) ครูอัตราจ้าง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ได้นำเอกสารหลักฐานเข้ายื่นศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี หลังถูกสามีซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูงในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ทำร้ายร่างกายและบังคับหย่าโดยไม่เป็นธรรม โดยมีนายปัญญวัฒน์ รัตนคช นิติกรชำนาญการพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง

โดย น.ส.จ๋า กล่าวว่า ตนเป็นครูอัตราจ้างดูแลเด็กพิเศษ สังกัด สพป.3 ก่อนหน้านี้ เมื่อ 4 ปีที่แล้วได้พบรัก และอยู่กินฉันสามีภรรยา กับ นายเอ (นามสมมุติ) ปัจจุบันตำแหน่ง ผอ.เขตการศึกษาแห่งหนึ่งในภาคใต้ โดยจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย มีบุตร 1 คน เป็นผู้หญิงปัจจุบันอายุ 1 ขวบ 10 เดือน โดยขณะที่ตนคบหากับนายเอ ขณะนั้นมีตำแหน่งเป็น รอง ผอ. จนกระทั่งเมื่อตนคลอดลูก นายสำเริงก็สอบเลื่อนขั้นเป็นผู้อำนวยการ และมีพฤติกรรมเปลี่ยน และมักจะมีปากเสียงกับตนบ่อยครั้ง รวมถึงมีพฤติกรรมไม่ให้เกียรติตนในฐานะภรรยา

“ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 65 ตนกับสามีมีปากเสียงกันอีกครั้ง และสามีก็พยายามจะออกจากบ้าน จนตนต้องกระโดดขึ้นไปนั่งบนกระโปรงรถ และนายเอ ได้ใช้กำลังทุบตีตนเช่นเดิม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.พระแสง และไม่ได้ติดต่อกับสามีอีกเลย แต่เมื่อไม่นานมานี้ ตนได้รับการติดต่อจากนายเอ ผ่านทางเลขาฯ ให้ตนเซ็นใบหย่า พร้อมทั้งส่งมอบเอกสารสัญญาแนบท้ายการหย่า ที่เป็นไปในลักษณะให้ตนเสียเปรียบและยังถูกข่มขู่จากนายเอ ให้เกิดความหวาดกลัว โดยแจ้งว่า หากตนไม่เซ็นใบหย่า ก็จะฟ้องร้องเอาบุตรสาวไปเลี้ยงดู” น.ส.จ๋า กล่าว

น.ส.จ๋า กล่าวด้วยว่า ช่วงปีที่ผ่านมา ตนถูกสามีใช้กำลังทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง เมื่อมีปากเสียงกัน ซึ่งที่ผ่านมาตนก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของครอบครัวที่จะมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้างและไม่เคยคิดที่จะเลิกกับสามี จนมาล่าสุด นอกจากสามีจะทำร้ายร่างกายตนแล้ว ยังทำร้ายร่างกายแม่ของตน ที่เห็นเหตุการณ์ขณะที่ตนถูกสามีทำร้ายและเข้ามาช่วยเหลือตน จึงได้ตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเลิก แต่ก็มาถูกสามีเอาเปรียบด้วยการเอาตำแหน่งหน้าที่มาข่มขู่ ร่วมถึงปฏิเสธการใช้หนี้สินที่นายเอ ได้ก่อไว้ขณะที่อยู่กินกัน ตนจึงอยากขอความเป็นธรรม ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ให้ช่วยดำเนินการนำตัวสามี มาพูดคุยหาทางออกในภาระหนี้ต่างๆ และขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย

ทุกวันนี้ ตนไม่สามารถพูดคุยตกลงหาทางออกกับสามีได้ เพราะที่ผ่านมา สามีจะกล่าวอ้างว่ามีเส้นสายใหญ่ทั้งคนในกระทรวงศึกษาธิการและตำรวจ ขณะที่ตนเป็นเพียงครูอัตราจ้าง ที่ไม่สามารถไปต่อสู้กับใครได้ ตนจึงฝากความหวังไว้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ช่วยพิจารณาไตร่ตรองเรื่องคุณธรรมจริยธรรมด้วยของสามี และขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย น.ส.เบญจวรรณ กล่าวในที่สุด