เมื่อวันที่ 10 ม.ค. เจ้าหน้าที่กรมประมงได้รับแจ้งจาก คุณยายจิต วัย 75 ปี ให้ช่วยจับจระเข้ที่อยู่ในบ่อหลังบ้านเลขที่ 51 ซอยเทิดราชัน 17 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งเป็นบ้านของลูกพี่ลูกน้องที่ย้ายออกไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะเกรงว่าจะหลุดออกมาจากบ่อ ต่อมาเจ้าหน้าที่กรมประมง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ อปพร.ดอนเมือง ลงพื้นที่เพื่อจับจระเข้ยาวกว่า 2 เมตร ที่ออกมาจากบ่อ ระหว่างนั้น นายวันชัย จูเภา เจ้าหน้าที่ อปพร.ดอนเมือง ฐานนิรันดร์คอนโด 5 อายุ 59 ปี เกิดพลาดท่าถูกจระเข้งับเข้าที่ขาขวาจนได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสีกัน

คุณป้าจิต เล่าว่า จระเข้ตัวนี้ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นเจ้าของบ้านได้ซื้อมาเลี้ยงไว้ช่วงหลังน้ำท่วมปี 54 ตั้งแต่ตัวยังเล็ก กระทั่งกลางปี 64 เจ้าของบ้านได้ย้ายไปอยู่กับลูกไปที่ จ.อุบลราชธานี ทีแรกเขาจะเอาไปด้วยแต่ติดที่ตัวมันใหญ่ทำให้การขนย้ายลำบากจึงปล่อยเอาไว้แบบนี้ ที่ผ่านมาตัวเองก็จะคอยเข้ามาดูและซื้อไก่มาให้กินอาทิตย์ละครั้ง แต่ตอนนี้ตัวเองก็แก่มากแล้วเดินไปมาก็ลำบาก กลัวถ้าตัวใหญ่กว่านี้มันจะหลุดออกไปนอกบ่อ ถึงตอนนั้นตัวเองก็คงทำอะไรไม่ได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่มาเอาไปดูแลต่อ

ด้าน นายเฉลิมชัย ดีแก้ว เจ้าพนักงานประมงชำนาญงาน สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมประมง กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำจระเข้ส่งไปที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ (บึงบอระเพ็ด นครสวรรค์) เพื่อตรวจร่างกายและพักฟื้น ทั้งนี้ ฝากไปยังพี่น้องประชาชนทั่วไป จระเข้ ถือว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ซึ่งในการครอบครองมีไว้เพื่อเพาะพันธุ์ และการค้า รวมถึงคนที่ครอบครองไว้เป็นสัตว์เลี้ยง จะต้องได้รับอนุญาตจากกรมประมงพื้นที่ และหากมีจระเข้ไว้ในครอบครองเพื่อการใดก็ตาม แต่ไม่ได้มีการขออนุญาตไว้ก็จะมีความผิดตามตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2560 ซึ่งมีทั้งโทษจำคุกและโทษปรับ.