จากกรณี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี พ่อค้าขายอาหารตามสั่ง ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับทางนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังจากถูกภรรยา คือ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ให้ดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน เนื่องจากนายเอ ได้ขโมยเสื้อยกทรง 2 ตัวและกางเกงใน หลังโกรธแค้นที่ น.ส.บี ได้มาคบหากับชายคนใหม่ ซึ่งเป็นคนพิการ นั่งรถเข็นวีลแชร์ และทั้งสองคบหามีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง โดยภรรยาได้นำลูกสาวทั้ง 3 คนไปอยู่ด้วย เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านซอยวัดกู้ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นั้น

สุดช้ำใจ! เมียหอบเสื้อผ้าพาลูกไปอยู่กับชู้ แถมแจ้งจับผัวขโมยกางเกงใน

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ช่วงเย็นของวานนี้ (17 ม.ค.) นายเอ และ น.ส.บี พร้อมลูกสาว 3 คน ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันเรื่องการดูแลบุตรและถอนแจ้งความคดีลักทรัพย์ กับทาง ร.ต.ท.ฉัตรราชย์ สังข์พระกร รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เพื่อยุติข้อขัดแย้งที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการเจรจากว่า 40 นาที

นายเอ กล่าวว่า วันนี้ตนและภรรยา พร้อมลูกทั้ง 3 คน เดินทางมาลงบันทึกประจำวันเพื่อยุติเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในครอบครัว โดยมีการลงบันทึกเรื่องของการเลี้ยงดูแลลูกหรือการปกครองลูก โดยลูกสาวทั้ง 3 คน จะอยู่ในความดูแลของแม่ แต่สามามารถไปมาหาสู่กับตนได้ตามความสบายใจของเด็ก ตนก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าไปโรงเรียนลูกรายวัน รวมถึงค่าเทอมก็จะช่วยกันออก โดยตนรับผิดชอบ 60% ส่วนแม่น้องก็จะรับผิดชอบ 40% และตนชำระหนี้สินที่คงค้างไว้กับอดีตภรรยาทั้งหมด 40,000 บาท โดยผ่อนชำระเดือนละ 1,500 บาท ส่วนในเรื่องคดีความตอนนี้ก็ต่างฝ่ายต่างถอนแจ้งความเพื่อยุติข้อพิพาทเพื่อความสบายใจของลูกๆ ทั้ง 3 คน

“ตอนนี้ก็ต้องเลิกราและต่างคนต่างอยู่ ส่วนผมก็ไม่คิดจะมีใครก็คงต้องสู้ต่อไปทำงานกิจการสร้างฐานะเลี้ยงลูกดูแลแม่ต่อไป ส่วนมือที่สามที่เข้ามา ผมก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ไม่ได้อาฆาตอะไรกับเขา ถ้ามีคนที่ดูแลดีกว่าก็ปล่อยไปตามความเป็นจริง ตอนนี้ก็ไม่ติดใจอะไรทั้งสิ้นจบลงด้วยดี จะสนใจแค่เรื่องลูกเป็นหลักเท่านั้นพอ” พ่อค้าขายอาหารตามสั่ง กล่าว.