เมื่อวันที่ 29 ม.ค. พล.ต.ต.สุวิชชา จินดาคำ ผบก.จร. พ.ต.อ.สมโภช สุวรรณจรัล รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.ณัฐพัฒนส์ ธรรมชุตินันท์ ผกก.2 บก.จร. สั่งการให้ พ.ต.ท.อัษฎาวุธ ขวัญเมือง รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต/ทางพิเศษ พ.ต.ท.ธีรพจน์ ทองเกตุ, พ.ต.ต.ภุชงค์ เม้าทุ่ง สว.งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ จับกุมผู้ต้องหา 5 ราย ประกอบด้วย นายภูวดล หรือต้า อายุ 20ปี , นายทิวกร หรือกาย อายุ 20 ปี นายณัฐพล หรือบูม อายุ 19 ปี นายพลวัตร หรือเขต อายุ 19 ปี และนายนรินธร หรือปลื้ม อายุ 19 ปี (ทั้งหมดขอสงวนนามสกุล)
พ.ต.ต.ภุชงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันและปราบปรามแข่งรถในทางหรือขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และผู้สนับสนุนให้มีการแข่งรถหรือให้ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. จึงสั่งให้ให้ทาง บก.จร. เร่งดำเนินการ ต่อมาปรากฏพบว่ามีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 5.2 ได้มีการแชร์วิดีโอกลุ่มจักรยานยนต์ทำการแข่งรถในทางและขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในพื้นที่วิภาวดี เจ้าพนักงานตำรวจงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ ได้ทำการสืบสวนเกี่ยวกับกลุ่มจักรยานยนต์ทำการแข่งรถในทางและขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในพื้นที่ถนนวิภาวดี โดยเจ้าพนักงานตำรวจงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ ได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบนถนนวิภาวดี พบว่าเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น. มีกลุ่มจักรยานยนต์ขับขี่กันจำนวนหลายคันบนถนนวิภาวดีฯ ในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งมีประชาชนทั่วไปใช้รถยนต์บนทางทุกช่องทาง กลุ่มรถจักรยานยนต์ดังกล่าวได้มีการใช้ความเร็วในการเปลี่ยนช่องทางการเดินรถโดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนที่ร่วมใช้เส้นทางเดินรถ พร้อมกับการเร่งเครื่องส่งเสียดัง และมีการใช้ท่าขับขี่ให้ลักษณะน่าจะเป็นอันตราย ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ ได้ทราบตัวผู้ขับขี่ทั้ง 5 คนมาแจ้งข้อกล่าวหา
สอบสวนทั้งหมดให้การรับสารภาพ จึงทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในวันเกิดเหตุไว้ที่งานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดี-รังสิต/ทางพิเศษ และได้นำตัวส่งอัยการฟ้องศาลแขวงพระนครเหนือ ในข้อหา “ขับรถโดยประมาทและน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน, ขับรถในลักษณะที่ผิดปกติวิสัยของการขับรถตามธรรมดา และไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและความเดือดร้อนของผู้อื่น, ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น, แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากหัวหน้าพนักงานจราจร และขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด”
เบื้องต้นศาลพิพากษาจำคุก 1 เดือน เปลี่ยนเป็นกักขัง 1 เดือน พร้อมริบรถจักรยานยนต์ของกลาง พร้อมพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน ตามขั้นตอนต่อไป.
