เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 ก.พ. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “ไข่นกกระทา” เข้าจับกุม นายเอ (สงวนนามสกุล) ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางชัน ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ได้ภายในห้องทำงานโรงเรียนดังกล่าว

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้รับร้องเรียนว่า นายเอ มีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม เรียกรับเงินจากคู่สัญญาหรือผู้ประกอบการที่ชนะการเสนอราคาโครงการจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับนักเรียน ภาคเรียนที่ 2/2565 เป็นเงิน 329,000 บาท อ้างว่าจะนำไปปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ ภายในโรงอาหาร และเรียกเก็บเพิ่มเป็นรายเดือนอีกเดือนละ 9,000 บาท อ้างเป็นค่าดูแลเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องอาหารของนักเรียน 5 คน โดยให้เหตุผลว่า ทางผู้ประกอบการได้กำไรไปแล้ว หากไม่ยอมทำตามก็จะยกเลิกสัญญา หรือ ทำเรื่องรายงานกรุงเทพมหานคร ว่า ผู้ประกอบการได้รับเงินส่วนต่างค่าอาหารเช้าจากการที่เด็กนักเรียนไม่มารับประทานอาหารเป็นเงินจำนวนมาก หลังทราบเรื่องได้จัดกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบพบพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดจริง จึงวางแผนให้ผู้ประกอบการนำเงินไปส่งมอบให้กับนายเอ ก่อนเข้าจับกุมตัวได้พร้อมเงินของกลางดังกล่าว

สอบสวนนายเอ ให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีการเรียกรับเงินใด แต่ยอมรับว่าก่อนหน้าจะถูกจับกุม ได้เชิญผู้ประกอบการมาพบเพื่อพูดคุยเรื่องที่ถูกร้องเรียนเรื่องคุณภาพอาหาร ส่วนซองเงินที่อยู่บนโต๊ะไม่ทราบว่าเป็นของผู้ประกอบการคนดังกล่าววางลืมไว้หรือไม่ เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปปป. เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งต่อให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการอาหารเด็กนักเรียนดังกล่าว เดิมทีตั้งงบกลางไว้ 12 ล้านบาท ก่อนเปิดให้ผู้ประกอบการประกวดราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) จนมีผู้ชนะการประกวดยื่นรับทำโครงการที่วงเงินประมาณ 8 ล้านบาท เฉลี่ยค่าอาหารเช้าและกลางวันเด็ก รายละ 28 บาทต่อวัน จากจำนวนเด็กเกือบ 3,000 คน ภายในกรอบระยะเวลา 100 วัน

ส่วนที่ไปที่มาของปฏิบัติการ “ไข่นกกระทา” เป็นการเปรียบเชิงสัญลักษณ์ให้เห็นว่า การปราบปรามทุจริตเงินโครงการดังกล่าวนั้น ถือเป็นการช่วยเด็กนักเรียนให้ได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งจากเดิมเคยรับประทานแค่ไข่นกกระทา แต่หากไม่มีการทุจริต เด็กนักเรียนก็จะได้รับประทานอาหารที่ดีกว่า.