เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบและยินดีกับผลการจัดอันดับดัชนีชี้วัดประเทศที่มีอิทธิพลในเอเชีย (The Asia Power Index 2023) จาก Lowy Institute สถาบันค้นคว้าวิจัยด้านนโยบายระหว่างประเทศของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งไทยอยู่ในอันดับที่ 10 ของประเทศที่มีอิทธิพลที่สุดในเอเชีย ด้วยคะแนนรวม 18.7 คะแนน จากทั้งหมด 26 ประเทศและเขตเศรษฐกิจ (https://power.lowyinstitute.org/) โดยอันดับที่ 1–9 คือ สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย รัสเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ตามลำดับ

นายอนุชา กล่าวว่า ทั้งนี้รายงานยังระบุเพิ่มเติมว่า ประเทศไทยมีความเข้มแข็งที่สุดในตัวชี้วัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และมีการปรับปรุงมากที่สุดในด้านแหล่งทรัพยากรในอนาคตและการมีมาตรการต่าง ๆ ผ่านอิทธิพลทางการทูต แม้บางด้านจะมีอันดับที่ลดลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ในภาพรวมถือได้ว่า ไทยมีอิทธิพลในภูมิภาคมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากมีทรัพยากรที่เพียงพอ สอดคล้องกับดัชนีด้านพลังงาน (Power gap) ซึ่งไทยมีพัฒนาการต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2565 (https://power.lowyinstitute.org/power-gap/)

“นายกรัฐมนตรี ชื่นชมผลการจัดอันดับดังกล่าว สะท้อนความเชื่อมั่นของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ นับเป็นผลสำเร็จจากการขับเคลื่อนนโยบายด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล ซึ่งต้องขอบคุณการบูรณาการความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเชื่อมั่นว่า ด้วยศักยภาพของประเทศไทยที่มีความพร้อมในทุกมิติ ทั้งทรัพยากร และการเตรียมความพร้อมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม เน้นแนวทางการเดินหน้าแบบสมดุล ใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ตลอดจนรัฐบาลได้วางแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เตรียมพร้อมรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้า ซึ่งรวมไปถึงการรองรับการค้าการลงทุน ไทยจะเป็นประเทศที่โดดเด่นมีความสำคัญทุกด้านในภูมิภาคโดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ” นายอนุชา กล่าว.