วันที่ 12 ก.พ. ร.ต.อ.การุณ จันทร์ดอก รอง สว.(สอบสวน) สภ.สตึก รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกายกันในตลาดสดเทศบาลสตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ จึงประสานหน่วยกู้ภัยวังกรูดเข้าร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบ นายไพรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี พนักงานขับรถส่งน้ำแข็ง มีบาดแผลถูกของมีคมเฉือนตั้งแต่บริเวณริมฝีปากซ้ายยาวไปโหนกแก้มยาวประมาณ 10 ซม. กู้ภัยจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายยุทธพงษ์ เค้าเสน อายุ 35 ปี เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นายยุทธพงษ์ ให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อนเหตุจริง สาเหตุเพราะไม่พอใจที่ นายไพรัตน์ พยายามไปเกาะแกะกับภรรยาตนที่ขายปลาทูอยู่ในตลาดสด เพราะที่ผ่านมา มีแม่ค้าในตลาดสดมาเตือนหลายครั้ง ว่าให้ระวังคนส่งน้ำแข็งเดี๋ยวเมียจะหาย จึงพยายามเฝ้าดูและเตือนแล้ว ทั้งยังเปลี่ยนรับน้ำแข็งเจ้าใหม่ แต่คนส่งน้ำแข็งยังไม่เลิกรา ยอมรับทนไม่ไหว “ผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้”

นายยุทธพงษ์ กล่าวต่อว่า ก่อนเกิดเหตุได้เตรียมมีดคัตเตอร์เอาไว้แล้วไปดักรอนายไพรัตน์ มาส่งน้ำแข็งในตลาด ยอมรับตอนแรกคิดจะฆ่า จึงเปลี่ยนวิธีมาพูดคุยกัน เพียงแค่จะเอาคัตเตอร์ไปขู่เท่านั้น แต่เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้นทำให้คัตเตอร์บาดใบหน้า แต่ไม่ได้หวังจะปาดคอแต่อย่างใด

ขณะที่ นายไพรัตน์ ผู้บาดเจ็บเล่าว่า ตอนเช้าเอาน้ำแข็งไปส่งปกติ เห็นนายยุทธพงษ์ ได้ปรี่เข้ามาแล้วพูดว่า ”เมื่อไรมึงจะเลิกยุ่งกับเมียกู” ก่อนจะเข้ามาล็อกคอแล้วชักมีดออกมา ตนจึงพยายามดิ้นเพื่อเอาตัวรอด กระทั่งมีดบาดใส่ใบหน้า ตอนนี้หมอเย็บแล้ว 13 เข็ม ส่วนตัวเชื่อว่า นายยุทธพงษ์ ต้องการจะเอามีดปาดคอตนอย่างแน่นอน เพราะมีการบีบคอและล็อกเอาไว้เหมือนกำลังจะเชือด ยืนยันไม่มีอะไรกับภรรยานายยุทธพงษ์ ที่ผ่านมาแค่จับมือถือแขนตามประสาคนสนิทกัน ไม่เคยคิดเกินเลย

เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหานายยุทธพงษ์ ข้อหาทำร้ายร่างกายเอาไว้ก่อน หลังจากนี้จะได้สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.