จากกรณีโลกออนไลน์ แชร์ภาพและเรื่องราวของ พระและเณรในวัดย่านสามเสน ถอดจีวรแปลงร่างเป็นหญิงไปเที่ยวผับ จนชาวบ้านต่างเอือม รวมทั้งยังบอกเล่าเรื่องราวไปอีกว่า พอนักข่าวไปดูพบว่า ล็อกกุฏิหายเงียบไม่อยู่วัด ชาวบ้านแจ้งว่ากลุ่มนี้มาจากนครพนมอยู่มากว่า 2 ปี เที่ยวดื่มหนักเป็นประจำ ชอบชวนผู้ชายมานอนที่กุฏิแล้วถ่ายภาพวาบหวิวอวด มาคอยดูกันว่าจะกลับมาอยู่ไหมหรือจะย้ายไปวัดไหน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างกว้างขวาง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี สาวประเภทสองและนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ข่าวที่ออกมาสร้างความเสียหายให้แก่ตนและเพื่อนเป็นอย่างมาก เพราะมีการนำรูปไปใช้มั่วไปหมด เพื่อนของคนไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยกลับถูกชาวเน็ตโพสต์แสดงความเห็นในเชิงต่อว่าด่าทอเสียหาย ทั้งที่ตนและเพื่อนไม่ได้ไปมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับพระ 2 รูป ทั้งนี้ ขอยืนยันได้ว่า ตนไม่ได้บวชอยู่ที่วัดย่านสามเสน และไม่เคยรู้จักพระทั้ง 2 รูป ตนเคยบวชอยู่วัดปางมดแดง จ.พะเยา สึกออกมาเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2565 ส่วนภาพที่ไปเที่ยวกันเป็นภาพ เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2565 เป็นช่วงที่ตนสึกออกมากว่าเดือนแล้ว

“…ข่าวออกไปคนก็มองไม่ดี คนที่รู้จักก็มองตนเสียหาย มองเหมือนตนไปทำความผิด โดนประณามทั้งที่ไม่ใช่รูปตน เอารูปไปรวมมั่วและตีความออกมามั่วไปหมด ยืนยันว่าสึกมาตั้งนานแล้ว หลังออกพรรษาประมาณ 2 วัน เพราะต้องไปทำงานกับที่บ้าน คนรู้จักติดต่อมาเพราะเป็นห่วง และอยากทราบเรื่องตามที่เป็นข่าว คนที่สนิทในเฟซบุ๊ก ในอินสตาแกรม ก็ทักมาถามด้วยความเป็นห่วง ตนยืนยันจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับ 2 เพจดัง ที่เหมือนมาสร้างมลทินให้ตน…” นายเอ กล่าวและเผยอีกว่า

ถ้าวันนี้ไม่มีสำนักข่าวเข้ามา ก็จะไม่ได้ล้างมลทินเลย เหมือนเราเป็นคนกระทำความผิดจริงๆ หลังเกิดเรื่องพยายามติดต่อเพจที่ให้ข่าวไปแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้ คนที่รู้จักก็ช่วยติดต่อนักข่าวให้ เพราะข่าวกระจายไปเสียหายหมด บางคอมเมนต์แรงไปถึงบุพการี บางข้อความก็หาว่าไปเที่ยวผับแล้วต้องกลับไปบิณฑบาตบ้าง ถามว่าตนจะไปบิณฑบาตได้ยังไง แต่งตัวขนาดนี้ เล็บทับทิมขนาดนี้ จะไปถือบาตรยังไง ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะตนเป็นฝ่ายเสียหาย พี่ของตนอยู่คนแรกในรูปเลย เรียนคณะครุศาสตร์ ถ้าเกิดสอบบรรจุไม่ได้มันมีผลกระทบเหมือนกัน บางทีทางมหาวิทยาลัยหรือทางอื่นเขาไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ว่าจริงหรือเท็จ แต่ข่าวมันออกกระจายไปมาก ถึงขนาดสามารถตัดสิทธิได้เลย ตนได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจเยอะมาก เพิ่งเสียยายไปเมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว แม่ตนก็เพิ่งมาตรวจพบเจอมะเร็ง แล้วตนยังต้องมาเจอข่าวแบบนี้อีก

ด้าน น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะครุศาสตร์ ปี 3 นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ตนยืนยันว่าเป็นผู้หญิงแท้ 100% มาดูบัตรประชาชนก็ได้ ตนไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน ตนเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เพราะอาจารย์แนะนำ และตนได้ทุนเรียนจากอาจารย์เลยเลือกเรียนที่นี่ ตอนนี้ได้รับผลกระทบทางจิตใจและเรื่องเรียนมาก ต้องไปสอบใบประกอบวิชาชีพ หากสอบไม่ได้เพราะมีเรื่องเสียหาย หรือ หมดสิทธิ์สอบ อาจต้องถูกเด้งออกจากมหาวิทยาลัยด้วย ตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ทั้งทางเพจเฟซบุ๊ก และช่องต่าง ๆ ที่ออกข่าวไป รวมถึงคอมเมนต์ทุกคอมเมนต์ที่ด่าตนถึงบุพการี ตนอยากให้ทุกคนไตร่ตรองและหาความจริงก่อน