เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ส.ส. ผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ตลอดจนสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมาถึง จ.อุบลราชธานี เพื่อเปิดเวทีปราศรัยใหญ่สามเวทีประกอบด้วย เวทีปราศรัยย่อยวัดม่วงเดียด หลวงพ่อลี อ.ตระการพืชผล เวทีปราศรัย รร.มัธยมเดชอุดม อ.เดชอุดม และเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ศาลากลางเก่า อ.เมืองอุบลราชธานี โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำพรรค รวมถึง ส.ส. ในพื้นที่และประชาชนมารอต้อนรับเป็นจำนวนมาก พร้อมขอถ่ายภาพเซลฟี่ มอบดอกกุหลาบแดง เพื่อเป็นกำลังใจให้ น.ส.แพทองธาร และส่งเสียงเชียร์ให้ น.ส.แพทองธาร ได้เป็นนายกฯ

จากนั้นเวลา 11.00 น. น.ส.แพทองธารและคณะ เดินทางมาเวทีปราศรัยย่อย ที่วัดม่วงเดียด หลวงพ่อลี อ.ตระการพืชผล มีประชาชนมารอฟังการปราศัยเป็นจำนวนมากจนล้นพื้นที่ลามไปถึงถนนใหญ่ โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่าถ้าพรรค พท. ได้เป็นรัฐบาล ทุกสิ่งที่ดีงามจะเกิดกับประชาชนแล้วยกระดับใหม่ให้ดีขึ้น กองทุนหมู่บ้านละล้านจะเอาหรือไม่ 30 บาท รักษาทุกโรค วันนี้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วไทย ผู้หญิงถ้าอายุถึงเกณฑ์จะฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี 1 อำเภอ 1 ทุน สนับสนุนไปเรียนหนังสือต่างประเทศ ยาเสพติดที่เต็มบ้านเต็มเมือง พรรค พท. กลับมาจะปราบปรามยาเสพติดทันที

ตอนปี 48 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาหาเสียง วันนี้ลูกสาวคนเล็กมาขอเสียงให้แลนด์สไลด์ เราจะยกระดับรายได้การท่องเที่ยวทั่วประเทศให้เป็น 3 ล้านๆ ใน 4 ปี รวมถึงจะทำนโยบายปริญญาตรีได้เงินเดือน 25,000 บาท ข้าราชการที่จบปริญญาตรีจะปรับให้ได้เงินเดือน 25,000 บาทเช่นกัน วันเลือกตั้ง อยากให้ประชาชนจำชื่อแล้วกาเบอร์เพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค จะเหมือนถูกหวยทั้งปีทั้งชาติ และที่ ส.ว. บอกประกาศต่อให้เพื่อไทยแลนด์สไลด์ จะไม่ยอมให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แบบนี้ยอมหรือไม่

ทางด้าน น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า สวัสดี พ่อแม่พี่น้องชาวอุบลฯ ทุกคนเลย คิดฮอดพ่อใหญ่บ่ (นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ) คิดฮอดคุณอา (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ) บ่ ท่านทั้งสองฝากความคิดถึงมา และตั้งแต่ตนมาถึงอุบลฯ ได้รับการต้อนรับอย่างดี ได้รับการผูกข้อมือมาตั้งแต่สนามบิน เมื่อก่อนคุณพ่อเคยมาปราศรัยที่อุบลฯ ตนได้ตามมาด้วย พี่น้องเหนียวแน่นตั้งแต่สมัยไทยรักไทย น่าชื่นใจจริงๆ อุบลราชธานีมีศักยภาพ พรรค พท. อยากให้หายจน เราจะพัฒนาการเดินทางด้านการขนส่ง เพราะเชื่อมไปได้หลายประเทศทั้งกัมพูชา ลาว โดยรถไฟที่สามารถประหยัดเวลาและจะสามารถขนส่งสินค้าเกษตรไปขายได้ทั่วประเทศ รวมถึงกระจายไปได้ทั่วโลก พรรค พท. จะพาสินค้าเกษตรไปกระจายรอบโลกเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล รวมถึงสนามบินใหญ่บึ้มทันสมัย สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ คนจะมาเยอะ เงินหมุนเวียนในพื้นที่อุบลฯ เยอะ และกระจายไปจังหวัดข้างเคียงทั้งประเทศก็จะดีขึ้น นี่คือภาพที่มองเห็น พรรค พท. ต้องการสร้างรายได้ให้ประชาชน แล้วเราจะถูกหวยตลอดไป เราทำเป็น เราทำมาแล้ว จำได้หรือไม่ตอนพรรค พท. เป็นรัฐบาลสินค้าเกษตรดีมากเราจะทำให้กลับมาเป็นแบบนั้น อย่าแบ่งใจให้ใครพรรค พท. ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ลูกคนเดียวเดี่ยวๆ นะจ๊ะ เลือกพรรค พท. ทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์

ขณะที่ นายเกรียง กล่าวถึงความมั่นใจในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ หากพูดแบบไม่เข้าข้างตัวเอง พรรค พท. น่าจะกวาด ส.ส. ยกจังหวัด ครบทั้ง 11 เขต แม้เรื่องประชาธิปไตยอาจจะมีพรรคการเมืองอื่นมาแบ่งคะแนน แต่วันนี้ประชาชนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มีปัญหาเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจ และยาเสพติด ประเด็นเหล่านี้พรรค พท. คือคำตอบ อีกทั้งพรรคคู่แข่งยังมีประเด็นยาเสพติดที่ประชาชนต่อต้าน จึงทำให้ตนมั่นใจ และยังมั่นใจไปถึงพื้นที่อีสานใต้ ทั้ง ยโสธร อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ พรรค พท. มีกระแสดีมาก

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว. ตั้งธงว่า แม้เพื่อไทยจะชนะแลนด์สไลด์ก็จะไม่เลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ต้องขอบคุณที่ช่วยพรรค พท. หาเสียง เพื่อทำประชาชนประจักษ์ วางที่เขาสงสัยกันอยู่ว่า ทำไมเราถึงพูดว่าปิดสวิตช์ ส.ว. มันจำเป็นแค่ไหน ขอฝากขอบคุณไปเลย เราหาเสียงเหนื่อยแบบนี้ มี ส.ว. ช่วยหาเสียง ขอขอบคุณมากๆ ส่วนกรณีที่มองว่าตนอ่อนประสบการณ์นั้น ตอนที่ตนอยู่ในแง่ธุรกิจได้ไปหลายที่ ซึ่งคนอายุน้อยกว่าตนเป็นเจ้าของธุรกิจและเก่งมากๆ แม้ตนไม่ได้เก่งที่สุดแต่มีทีมที่เก่งที่สุด ดังนั้นการคอมเมนต์เรื่องอายุเป็นคอมเมนต์ที่เชยแล้ว ถ้าเรายังพูดแบบนี้เป็นความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ หันไปดูทั่วโลกว่าเกิดอะไรบ้างผู้นำแต่ละที่อายุเท่าไรกันบ้าง ไม่ใช่แค่ผู้นำทางการเมืองแต่ผู้นำบริษัททั้งในและต่างประเทศก็มีเด็กเก่งๆ อยู่มาก 

“อย่าคอมเมนต์แบบนี้อีกเลย มันเป็นคอมเมนต์ที่ไม่สร้างสรรค์และแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะ” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้าประชาชนสนับสนุนพร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ถ้าประชาชนเลือก ก็แน่นอนต้องสู้เต็มที่อยู่แล้ว เพราะอิ๊งค์มีทีมและนโยบายพรรค พท. ที่ทำกันอย่างเข้มข้น อันนี้มันต้องเคารพเสียงของประชาชนอยู่แล้ว”

เมื่อถามย้ำอีกว่า หมายความว่าคือพร้อมเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนรู้สึกเขิน พอพูดแบบนี้ก็รู้สึกว่า เรายังไม่มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ อย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ 

เมื่อถามว่า ความคิดเห็นของ ส.ว. ออกมาแบบนี้ ยิ่งทำให้มั่นใจ เพื่อตอกย้ำให้ ส.ว. เห็นว่าเราพร้อมนายกฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนี้คือสิ่งที่ทำให้ตนมั่นใจในตัวเองมากขึ้น แต่ตนไม่ขอท้าทายกับดราม่าทางการเมืองแบบนี้ ตนขอท้าทายด้วยเสียงและสิทธิของประชาชน 

“ไม่จำเป็นต้องเลือกอิ๊งค์เป็นนายกฯ อิ๊งค์จะเป็นแคนดิเดตหรือเปล่า ตอนนี้ชื่อยังไม่ออกเต็มที่ แต่เคารพเสียงของประชาชนด้วย ที่คุณบอกว่าคุณเคารพเสียงประชาชน คุณเคารพเสียงของเขาหรือเปล่า” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ส่วน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าในสนามเลือกตั้งมันชัดเจนแล้วว่า ส.ว. 250 คน เตรียมที่จะสกัดขัดขวางเจตนารมณ์ของประชาชน โดยไม่สนใจว่า แม้จะมีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งได้เกินครึ่งในสภาก็จะไม่ยอมรับ นี่คือเหตุผลและความจำเป็นที่พรรค พท. ต้องประกาศเป้าหมายเลนส์สไลด์ เพราะเรารู้ดีว่าคู่แข่งที่แท้จริงไม่ใช่พรรคการเมืองแต่เป็น ส.ว. 250 คน ขณะนี้เขาก็เปิดตัวตนออกมาอย่างชัดเจน มันไม่ใช่สเต็ปเดียว ว่าจะยกมือสกัดกั้นพรรค พท. เท่านั้น ถ้าใช้ 250 ส.ว. เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นนายกฯ ได้ ต่อไปจะแก้ไขและธรรมนูญปลดล็อกวาระนายกฯ 8 ปี ให้ได้เป็นนายกฯ กันยาวๆ เราไม่มีที่พึ่งอื่น นอกจากประชาชน เชื่อเหลือเกินว่าถ้าประชาชนต้องการความเปลี่ยนแปลงก็มีพรรค พท. เท่านั้นที่จะทำให้ได้

ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ ประสบการณ์ของ น.ส.แพทองธาร นั้น ส.ว. พิจารณาตัวเองกันดีๆ หลายคนนั่งกันในสภาเกือบ 10 ปี ยังไม่เคยมีประสบการณ์ลงเลือกตั้งกันเลย ยังไม่กล้าประกาศตัวกับประชาชนให้พิจารณา แต่ น.ส.แพทองธาร มาตามกติกาเข้าตามตรอกออกตามประตู ถ้าประชาชนไม่เลือกก็เคารพการตัดสินใจ แต่ถ้าประชาชนเลือกก็อยากให้ ส.ว. ทั้งหลายเคารพประชาชนด้วย

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวถึงความมั่นใจในการปักธงภาคอีสานว่า เราเคยรับใช้ประชาชนมาแล้วและแสดงให้ประชาชนเห็นนานแล้วว่าเราทำได้จริง เราเคยมีรัฐบาลที่เคยรับใช้ประชาชนจริงๆ เรามีพลังของคนรุ่นใหม่จริงๆ ที่จะสามารถผลักดันนโยบายเหล่านั้นให้เป็นจริงได้ มั่นใจว่าประชาชนจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของเขาเช่นกัน

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะได้ ส.ส.อุบลราชธานี ยกจังหวัด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่ามั่นใจมากๆ ผู้สมัครของเราพร้อมแล้ว เราคิดว่าคนจะมาประมาณ 1 หมื่นคน แต่สรุปนับกันไปนับกันมาจะ 3 หมื่นคน ตนเห็นรูปก่อนที่เข้ามาถึง ต้องขอบคุณพี่น้องชาวอุบลฯ มากที่ให้การต้อนรับดี ถือเป็นกำลังใจให้พรรค พท. ที่จะไปอีกหลายจังหวัดระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ. 66 นี่เป็นแค่เวทีแรก เรายังเหลืออีก 8 เวที

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการเดิมพันครั้งสุดท้ายของพรรค พท. หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เราก็ต้องหาเสียงต่อไป ทำเพื่อประชาชนต่อไป นี่ไม่ใช่การเดิมพันหรืออะไร เป็นการเลือกตั้งที่ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ เมื่อมีโอกาสเมื่อไร เราก็จะทำประโยชน์ให้กับประชาชน