จากกรณี น.ส.กรภัทร แก้วเอียด อายุ 38 ปี ได้พา ด.ช.เอ อายุ 13 ปี และ ด.ช.บี อายุ 14 ปี นักเรียน ม.1 ลูกชาย เข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอความช่วยเหลือเนื่องจากลูกชายทั้ง 2 คน ถูกรุ่นพี่ ม.5 ของโรงเรียนประจำชื่อดังใน จ.เพชรบุรี สั่งลงโทษอย่างทารุณไร้เหตุผล ให้ลงแช่ในบ่อเกรอะ และลงโทษทางทหารจนเกิดบาดแผลติดเชื้อรักษาไม่หาย ซึ่งทางโรงเรียนและครูหอพักปัดความรับผิดชอบ โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ตัวแทนเพจสายไหมต้องรอด ได้พา น.ส.กรภัทร อายุ 38 ปี พร้อมด้วย ด.ช.เอ อายุ 13 ปี และ ด.ช.บี อายุ 14 ปี ลูกชายทั้ง 2 คน เข้าพบ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ชะอำ พ.ต.ท.อภิรักษ์ เพิ่มชัย รอง ผกก. พ.ต.ท.ชูเกียรติ เพชรแท้ รอง ผกก.สวบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี พร้อมด้วย ฝ่ายปกครองชะอำเพื่อเข้าพูดคุย แจ้งความเอาผิดกับทางโรงเรียนและรุ่นพี่ ม.5 คนที่ลงโทษ

จากนั้นเพจสายไหมต้องรอด ได้พา น.ส.กรภัทร พร้อมด้วยลูกชายทั้ง 2 คน เข้าพูดคุยกับ นางสิริณิกุญช์ เพ็ชร์สุกใส ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังใน จ.เพชรบุรี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นและความรับผิดชอบของทางโรงเรียน พร้อมด้วย น.ส.นารีรัตน์ สุขสำราญ อายุ 33 ปี อาของนักเรียน ม.5 อายุ 17 ปี รุ่นพี่ที่สั่งทำโทษรุ่นน้องทั้ง 2 คน

รุ่นพี่ ม.5 ที่สั่งลงโทษรุ่นน้อง กล่าวว่า ตนยอมรับผิดทำไปโดยไม่ตั้งใจ วันเกิดเหตุได้สั่งให้รุ่นน้องลงบ่อเกรอะจริง และให้กลิ้ง ตนเป็นคนสั่งเองคนเดียว ไม่มีครูมาสั่งตนให้ทำ โดยทำไปเพราะคิดไม่ถึง ก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยถูกรุ่นพี่ทำโทษแบบนี้ ตนเรียนรู้และคิดขึ้นมาเอง จึงอยากขอโทษแม่และรุ่นน้องทั้ง 2 คน จนเป็นเรื่องเกินเลยไป

ด้าน น.ส.กรภัทร กล่าวว่า เบื้องต้นจากการพูดคุยกับทางโรงเรียน ตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไร เพราะอยากให้โอกาสน้อง ม.5 รุ่นพี่ เห็นว่าเรียนใกล้จะจบแล้ว ตัวลูกแม่เองก็อยากให้โอกาสรุ่นพี่ ให้เขามีอนาคต ไม่ต้องมีคดีติดตัว ตนก็เคารพการตัดสินใจของลูก เมื่อลูกให้โอกาสแล้วตนจึงให้โอกาสเด็กได้เรียนต่อ แต่ให้จำไว้ว่าครั้งนี้ขอ ให้เป็นบทเรียนว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ขอฝากถึงโรงเรียนประจำช่วยสอดส่องดูแล อย่าให้มีเหตุการณ์ที่รุ่นพี่ทำโทษรุ่นน้องแบบนี้อีก ยุคสมัยนี้เราต้องใช้เหตุผลในการพูดคุย หากน้องทำอะไรผิดให้กล่าวตักเตือน หรือให้แจ้งครูทราบ เพราะอาจจะเหมือนเคสของน้อง สภาพจิตใจไม่แย่ ส่วนน้องทั้งสองคนก็ให้ลาออกจากโรงเรียน เนื่องจากน้องไม่อยากเรียนที่นี่ต่ออีกแล้ว

นางสิริณิกุญช์ เพ็ชร์สุกใส ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้พูดคุยกับผู้ปกครองแล้วจบลงด้วยดี ทางโรงเรียนก็ขอบคุณน้องทั้งสองและคุณแม่ด้วยที่ให้โอกาส ตนขอสัญญาว่าหลังจากนี้จะมีมาตรการดูแลเด็ก และครูประจำหอพัก โดยนำบทเรียนนี้ไปสร้างความเข้าใจกับนักเรียนทุกคน จะต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ขึ้นอีกในโรงเรียน เหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการสอดส่องดูแลนักเรียน แต่เด็กได้ตัดสินใจเอง ไม่มีการปรึกษาครู ทางโรงเรียนจะต้องมีนโยบายใหม่ ทำโรงเรียนให้เป็นบ้าน ทำครูให้เป็นพ่อแม่ เด็กมีปัญหาอะไรจะได้ปรึกษาครู และให้ครูช่วยกลั่นกรองเพื่อลดปัญหาในโรงเรียนประจำที่เกิดขึ้นดังกล่าว