เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในพื้นที่ จ.บกเปี้ยน ภาคตะนาวศรี ซึ่งแยกเป็นจังหวัดใหม่ออกมาจาก จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา โดยที่หมู่บ้านหวายแดง อ.บกเปี้ยน จ.บกเปี้ยน ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับ บ้านหาดตุ่น คุ้มหวายแดง หมู่ที่ 8 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ที่มีต้นแม่น้ำกระบุรีกั้นแนวชายแดน ได้เกิดเสียงปืนเล็กยาว หรือปืนอาก้า ยิงปะทะกันสนั่นบริเวณท่าเรือบ้านหวายแดง ระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยงที่เพิ่งเข้ามาเคลื่อนไหวและควบคุมหมู่บ้านตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เป็นระยะเวลาร่วม 3 เดือน

ชาวบ้านในพื้นที่แนวชายแดนไทย สามารถถ่ายคลิปเสียงยิงปะทะกันต่อเนื่องอย่างที่ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน มีชาวบ้านจากหมู่บ้านหวายแดง ข้ามแม่น้ำกระบุรี หนีตายเข้ามาในพื้นที่ นั่งหลบภัยในสวนปาล์มน้ำมันทางฝั่งไทยจำนวนนับร้อยราย และกระจายตัวกันไปในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.ปากจั่น และ ต.จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง และมีการปะทะกันถึงเย็นก่อนฟ้าจะมืด ซึ่งจุดที่ยิงปะทะกันตรงจุดนี้ เป็นกลุ่มกะเหรี่ยงที่มีกำลังประมาณ 160 นาย ที่แฝงตัวในหมู่บ้าน และกองกำลังทหารเมียนมาที่ส่งกำลังมาจากจังหวัดเกาะสอง ไม่ทราบจำนวน โดยสามารถมองเห็นกำลังทหารกะเหรี่ยงที่ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ และยึดฐานที่มั่นบริเวณท่าเทียบเรือห้วยแดงเอาไว้ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงรวมทั้งฝ่ายปกครองอำเภอกระบุรี คอยยืนเฝ้าสังเกตการณ์ เห็นการสู้รบด้วยอาวุธปืนตามริมแม่น้ำกระบุรี โดยไม่มีกองกำลังฝ่ายใด รวมทั้งการใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาทางฝั่งไทย

จากการสอบถามชาวเมียนมาครอบครัวหนึ่ง ที่มีทั้งพ่อ แม่ ผู้พิการนั่งรถเข็น และเด็กๆ ชาวเมียนมา ที่ข้ามหนีตายมายังฝั่งไทยได้ความว่า หมู่บ้านที่มีการต่อสู้กันคือหมู่บ้านหวายแดง เป็นชื่อเดียวกับคุ้มหวายแดง บ้านหาดตุ่น หมู่ 8 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง ทางฝั่งไทย โดยมีกองกำลังของกะเหรี่ยงประมาณ 160 นาย ที่เข้ามายึดและเคลื่อนไหวในหมู่บ้าน โดยไม่ทราบกำลังทหารของเมียนมาที่ยังไม่สามารถเข้ามายึดคืนหมู่บ้านหวายแดงคืนกลับ ซึ่งทางทหารไทยได้ดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองประเทศ พร้อมตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน ไม่ให้กองกำลังใดเข้ามาในประเทศ และไม่ให้กระทบกับพี่น้องประชาชนชาวไทย

พลตรี วรเดช เดชรักษา ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจกับชุดลาดตระเวนและชุดเฝ้าตรวจ รวมทั้งการลาดตระเวน ทั้งทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ เพื่อให้เห็นครบทุกมิติ และนำข้อมูลมาปรับแผนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการป้องกันแนวชายแดน เมื่อ 1-2 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์มีการสู้รบกันบ้าง ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในพื้นที่ชายแดนด้านจังหวัดระนอง ซึ่งมีผลกระทบกับพี่น้องประชาชนของประเทศเพื่อนบ้าน มีการอพยพมาอยู่ตามแนวชายแดนใกล้กับประเทศเรา พร้อมทั้งได้เน้นย้ำทั้งชุดเฝ้าตรวจและลาดตระเวนตามแนวชายแดนให้ทหารกองกำลังเทพสตรี หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 และชุดเฝ้าตรวจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4105 ได้เพิ่มความถี่และความเข้ม ทั้งการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจ แต่ในห้วงที่ผ่านมา ยังไม่มีผลกระทบด้านความมั่นคงกับประเทศเราแต่อย่างใด แต่ได้เตรียมแผนการป้องกัน และแผนการรองรับไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว.