เมื่อวันที่ 25 ก.พ. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “คนในข่าว” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM 100.5 ถึงกรณีที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคฯ มาลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และช่วยหาเสียงเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของพรรคฯ ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ ไม่ต้องมาขอร้องอะไรกัน โดยคนที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์มาตลอด ได้อะไรจากพรรค ได้เป็นหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีมาตลอด จึงมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ยามนี้พรรคประชาธิปัตย์มีความนิยมลดลง หลายคนอาจหวั่นไหวไปกับสถานการณ์ จึงคิดว่าอาจสู้ไม่ได้ หรือไม่สู้ แต่สำหรับพวกตนไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องมาขอ และไม่ต้องมาชวน เพราะตนทำหน้าที่อยู่แล้ว

“เป็นหน้าที่ที่คนของพรรคฯ แท้ๆ ได้ประโยชน์จากพรรค และในฐานะปุถุชนคนธรรมดา ต้องมีสำนึกรับผิดชอบบ้าง เพราะฉะนั้นคนอย่างผมหรือคนอย่างท่านบัญญัติ (บัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหน้าพรรคฯ) หรือคุณอภิสิทธิ์ ผมเชื่อว่ามีสำนึกอย่างนี้ ยกเว้นบางคนที่อาจทำเพื่อความอยู่รอด เมื่อหัวหน้าพรรคมีความนิยมไม่โดดเด่นเท่าที่ควร ก็หนีออกไป แต่ผมเข้าใจ และไม่ไปวิจารณ์อะไรเขา แต่แบบพวกผม มีลักษณะแบบตายก็ตายด้วยกัน เป็นก็เป็นด้วยกัน ไม่ใช่เป็นคนประเภทที่อยู่ด้วยกันตอนสบายๆ แต่ยามยากก็หนี ไม่ว่าผม คุณอภิสิทธิ์ หรือท่านบัญญัติ และอีกหลายคน เป็นประเภทที่ต้องทำหน้าที่ตัวเอง ยิ่งในยามที่คนออกกันมากก็ยิ่งชดเชย ยิ่งต้องทำหน้าที่ให้เขา เพียงแต่เราทำได้แค่ไหนก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่างผมทำได้แค่ช่วยหาเสียงตามแบบของผม ไปช่วยปราศรัย เพราะเราไม่ใช่นักการเมืองแบบใช้ทุนใช้เงิน เรามาในระบบการเมืองสุจริต เราก็ทำในแบบของเรา ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง”

นายชวน กล่าวอีกว่า ต้องบอกประชาชนว่าให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าเขตเลือกตั้ง เขาไปเลือกคนอื่น แต่อย่างน้อยต้องเลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพรรคฯ จะได้ทำหน้าที่ เพราะพรรคอยู่มาหลายสิบปี อยู่ด้วยความซื่อตรง ด้วยความสุจริตและมีผลงาน เพียงแต่ไม่หวือหวาเท่านั้น ทุกเรื่องขณะนี้ต้องยอมรับว่าสิ่งที่พรรคต่างๆ เกทับกันอยู่ อาทิ เรื่องเบี้ยผู้สูงอายุ ถือเป็นงานของพรรคประชาธิปัตย์ทำมาก่อน และต้องยอมรับว่าดีตรงที่รัฐบาลทุกชุด ไม่กล้าเลิก แม้พวกเขาไม่เห็นด้วย แต่วันนี้พรรคเขาก็เห็นความสำคัญแล้ว จึงจะเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ ดังนั้นเรื่องนี้แสดงว่าสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำไว้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง รวมถึงเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่บางพรรคมีวิธีการหาเสียงที่ต่างกันด้วย