เมื่อวันที่ 27 ก.พ. จากกรณี น.ส.นิ่ม แม่น้องต่อ เด็กชายวัย 8 เดือน ยอมรับสารภาพว่า นำลูกไปโยนลงไปในแม่น้ำห่างจากบ้านพักประมาณ 100 เมตร และตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนิ่ม ที่กุเรื่องมาโดยตลอด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด น.ส.นิ่ม แม่น้องต่อ เดินทางมาสอบปากคำที่ สภ.บางหลวง จ.นครปฐม ตั้งแต่ช่วง 10.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบปากคำอยู่ ด้านข้อมูลการสอบปากคำ เจ้าหน้ายังไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ มีเพียงมูลนิธิวิน วิน ที่ออกมาให้ข้อมูลบางส่วน

โดยนายวินท์ สุธีรชัย ประธานมูลนิธิวินวิน เปิดเผยว่า ได้ส่งทีมงานมาประสานลงพื้นที่กันตั้งแต่วันแรกๆ ที่น้องต่อวัย 8 เดือน หายไป สิ่งที่พบในพื้นที่ ชาวบ้านและตัวนิ่ม ไม่มีความสบายใจที่จะคุยกับเจ้าหน้าที่รัฐ มูลนิธิจึงเข้ามาพูดคุยจน นิ่ม รู้สึกสบายใจ และยอมเปิดใจพูดคุยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

นายวินท์ ยังระบุอีกว่า ต่อจากนี้ไปจะเป็นขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพ พม. และนักจิตวิทยา ซึ่งหากมีการกระทำความผิด ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย หลังจากนี้มูลนิธิจะช่วยเหลือครอบครัวนิ่ม เพื่อให้นิ่มเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างสบายใจ ดูแลแม่ที่ป่วยให้ ไม่ให้คนข้างหลังมีปัญหา ตอนนี้ นิ่ม ยอมเปิดใจที่จะคุยแล้วว่า ความจริงเกิดอะไรขึ้น เบื้องต้นเป็นความไม่ตั้งใจ เป็นอุบัติเหตุ เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากน้องเป็นเยาวชน ต้องดูแลทั้งครอบครัว ดูแลแม่ และลูกตัวเอง จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุ จนน้องต่อจากไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

พ่อผัวเชื่อ ‘นิ่ม’ พูดขอไปที! เอา ‘น้องต่อ’ ไปโยนทิ้งน้ำ กุเรื่องเหมือนชายเสื้อเหลือง

“นิ่มค่อนข้างกลัว นี่เป็นที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมด นิ่ม รู้ว่าตัวเองไม่สามารถเปิดใจให้กับใครได้” นายวินท์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.ชลิดา พะละมาตร ประธานที่ปรึกษามูลนิธิวิน วิน เผยว่า ส่วนตัวมองว่าเด็กยังกลัวที่จะให้ข้อมูล ช่วงแรกนิ่มและพุดยังไม่เปิดใจ เพราะมีความกังวลไม่กล้าพูด พอมูลนิธิมารู้สาเหตุลึกๆ ที่เป็นดราม่ากันในโซเชียล จึงรู้ว่าผลกระทบมาจากสิ่งแวดล้อมรอบข้าง เหมือนนิ่มอยู่คนเดียว คนที่ไม่รู้ก็อาจจะรู้สึกเกลียดชังว่า ทำไมทำกับลูกแบบนี้ พอรู้ข้อมูลลึกๆ แล้ว ในมุมสังคมอีกด้านหนึ่งที่เป็นด้านมืด นิ่มเป็นคนที่น่าสงสารคนหนึ่ง

น.ส.ชลิดา ยังระบุอีกว่า นิ่มเล่าปัญหาทุกสิ่งทุกอย่างออกมา จนรู้สึกว่าทำไมเด็กคนหนึ่งต้องมาเจออะไรแบบนี้ เด็กอายุ 17 ปี เลี้ยงลูกคนเดียว ไปคลอดลูกคนเดียว เลี้ยงลูกคนเดียว ไม่มีใครช่วยดู เขาต้องมาทำเองทุกอย่าง “นิ่มรู้สึกปรึกษาใครไม่ได้ ที่นิ่มไม่กล้าพูดแต่แรกเพราะห่วงแม่ หากโดนจับ ใครจะดูแลแม่ แม่จะอยู่ยังไง”

สุดท้ายมูลนิธิวิน วิน เผยว่า “มองว่านิ่ม คือ มนุษย์คนหนึ่ง ที่ต้องการความช่วยเหลือ มองแค่นั้นจริงๆ”