เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย แถลงข่าวประกาศนโยบายพรรคด้านการ เมืองชุดที่ 1 เรื่องการปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และองค์กรอิสระ

นายสมชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคการเมืองต่าง ๆ ไม่กล้าแตะต้ององค์กรอิสระ กลัว กกต. ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พรรคเสรีรวมไทย ขอประกาศนโยบายปฏิรูป กกต.และองค์กรอิสระ 4 ข้อ คือ 1.ที่มา กกต.และองค์กรอิสระต้องมีที่มาเชื่อมโยงประชาชน จะเปลี่ยนกระบวนการสรรหาองค์กรอิสระให้มีตัวแทนพรรคการเมืองคือ ตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านฝ่ายละ 2 คน ฝ่ายรัฐบาลคือ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และตัวแทนพรรคฝ่ายรัฐบาล 1 คน ส่วนฝ่ายค้านให้ผู้นำฝ่ายค้านและตัวแทนพรรคฝ่ายค้านอีก 1 คน ให้เกิดการถ่วงดุล จากเดิมมีแค่ประธานสภาฯ และผู้นำฝ่ายค้าน และมีตัวแทนองค์กรอิสระ เป็นองค์ประกอบ การสรรหาองค์กรอิสระ จึงเป็นลักษณะผลัดกันเกาหลัง

2.การกำหนดคุณสมบัติองค์กรอิสระ ปัจจุบันมีการกำหนดสเปกลักษณะมหาเทพ คือ ถ้าเป็นระดับอธิบดีต้องเป็นมาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ถ้าเป็นภาคเอกชนต้องไม่น้อยกว่า 20 ปี เป็นการปิดโอกาสคนมีความรู้ ความ สามารถเข้ามาทำงาน จึงได้แต่คนเกษียณอายุราชการ คนเหล่านี้กว่าจะขึ้นระดับสูง ก็วิ่งเต้น เมื่อมาดำรงตำแหน่งจึงมีเรื่องบุญคุณต้องตอบแทน 3.ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบและถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระได้ โดยให้ประชาขนเข้าชื่อ 1 หมื่นคน ส่งประธานวุฒิสภา หรือ ส.ส.เข้าชื่อกันจำนวนหนึ่ง ซึ่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันไม่ให้ประชาชนเข้าชื่อถอดถอนองค์กรอิสระ แต่ให้ไปร้องกับ ป.ป.ช.แทน 4.การแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญ เรื่ององค์กรอิสระ ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี เมื่อแก้กฎหมายเสร็จ ผู้ดำรงตำแหน่งเดิมต้องพ้นจากตำแหน่งทันที เปิดโอกาสให้สรรหาคนใหม่

ทางด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมาย กกต.เอื้อให้พรรคการเมืองใหญ่ โดยเฉพาะการจัดเวทีปราศัยที่ขนคนมาฟังเป็นหมื่นเป็นแสน จ้างมากันทั้งนั้น แต่ กกต.ทำไม่รู้เรื่อง ที่ผ่านมากกต.ทำตัวไม่เป็นกลางเอื้อฝ่ายรัฐ เช่น การนำคนต่างด้าวมาคิดสัดส่วนการแบ่งเขตเลือกตั้ง หรือระเบียบหาเสียง 180 วัน ที่ห้าม ส.ส.ฝ่ายค้านแจกของช่วยเหลือประชาชน แต่รัฐบาลทำได้ ถึงจะอ้างว่าสุจริต แต่เที่ยงธรรมหรือไม่ ก็รู้อยู่ในใจ หรือการเลือกตั้งก็ปล่อยให้มีการซื้อเสียง จำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเปลี่ยนแปลง กกต. ส่วนกกต.จังหวัดควรยุบทิ้ง เพราะไม่มีประโยชน์และให้กลับไปใช้กลไกกระทรวงมหาดไทย นำตำรวจมาคุมหน่วยเลือกตั้ง คอยจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง.