จากกรณีชาวบ้านเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมอำเภอปากท่อ จ.ราชบุรี เรียกร้องขอให้ทำการตรวจสอบและพิสูจน์ทราบเอกสารสิทธิครอบครองที่ดิน ในพื้นที่หมู่ 11 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นการออกเอกสารสิทธิการครอบครองโดยมิชอบหรือไม่ เนื่องจากมีการตรวจสอบแล้วว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และมีการขุดสระน้ำในที่ดินเป็นพื้นที่รองรับน้ำเสีย โดยมีการอ้างว่ามีเอกสารสิทธิครอบครองอย่างถูกต้อง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหมู่ที่ 11 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี นายกนิษฐ ศิลา ปลัดอำเภอปากท่อ พร้อมนายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง) และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ราชบุรี นางสาวถปนัท ชาติไทย ผู้ร้องเรียน ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบบริเวณสระน้ำตามที่ผู้ที่ร้องเรียนแจ้งเข้ามา โดยทางเจ้าของฟาร์ม ได้ทำการชี้แจงสระดังกล่าว เป็นสระที่ขุดไว้เพื่อรองรับน้ำดี แต่ไม่มีน้ำลงมา เนื่องจากไม่มีทางน้ำไหลผ่าน ทางบริษัทจึงปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่รองรับน้ำเสีย ซึ่งเป็นน้ำที่ผ่านการบำบัดมาระดับ 1 จะไม่มีสารพิษต่อคนและสัตว์และไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อน้ำใต้ดิน เบื้องต้นจากการตรวจสอบทางกรมป่าไม้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ปฏิรูปที่ดินดำเนินการ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการกับใคร พื้นที่ดังกล่าวจึงยังเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

ด้านนายสุชาติ กล่าวว่า ทางอำเภอปากท่อให้มาตรวจสอบพื้นที่ที่มีการขุดบ่อบำบัดน้ำเสียดังกล่าว เป็นบ่อบำบัดน้ำเสียเดิมและบ่อบำบัดแห่งใหม่ ในภาพรวมอยู่ในเขตป่าสงวนบ้านพุยาง เขตป่าสงวน 2505 แต่จากการตรวจสอบก็มีผู้แทนของบริษัทแจ้งว่า เป็นที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามกฎหมายที่ดิน ขั้นตอนต่อไปก็คงต้องประสานหน่วยงานทางกรมที่ดินและเจ้าของที่ดิน มานำชี้ ก็เป็นขั้นตอนต่อไป ปัจจุบันตามที่อ้าง ที่ดินดังกล่าวตามเอกสาร ยังมีสิทธิตามกฎหมายอยู่ การซ้ำซ้อน ก็ต้องเข้าใจว่าเดิมเป็นพื้นที่ป่าสงวน แต่ได้ส่งให้ดำเนินการปฏิรูปที่ดิน แต่ก็ต้องไปดูที่มาที่ไปว่า หลังที่เราส่งพื้นที่ ส.ป.ก. เข้ามาดำเนินการให้กับผู้ใดหรือไม่

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า กรณีที่ยังไม่ออก ถึงแม้ออกกฤษฎีกา แต่ยังไม่ดำเนินการใดๆ พื้นที่ก็ยังคงเป็นสงวนแห่งชาติ สภาพรวมก็คือเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่เมื่ออ้างเอกสารสิทธิก็จะต้องตรวจสอบ ตามขั้นตอนปฏิบัติในอดีตที่ผ่านมา การประกาศที่ดินเป็นพื้นที่ของรัฐทุกประเภท ก็จะมีพื้นที่ทับซ้อนอยู่บ้าง วันนี้ในภาพรวมทั่วประเทศก็ยังมีปัญหาอยู่จำนวนมาก มันถึงเวลาแล้วทางภาครัฐจะต้องทบทวน แก้ปัญหาทั้งระบบ

ขณะที่นางสาวถปนัท กล่าวว่า พื้นที่เป็น น.ส.3 เคยร้องเรียนไปเรื่องน้ำขี้หมู ทางฟาร์มก็นำเอาเอกสารสิทธิ มี น.ส.3 ครอบครองมาแสดง ก็จึงเกิดความสงสัยว่า พื้นที่นี้เป็น น.ส.3 ได้อย่างไร โดยรอบจะเป็นที่ ส.ป.ก. ทั้งหมด แต่จุดนี้เป็นที่ น.ส.3 อยู่ 100 กว่าไร่ และอยู่ติดกับภูเขา ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยืนยันเป็นพื้นที่ป่าตั้งแต่ 2505 โดยกรมป่าไม้ก็ยืนยันว่าเป็นพื้นที่ป่า แต่ทางตัวแทนฟาร์ม ก็ยืนยันว่า มีเอกสารสิทธิครอบครองอยู่