เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (รรท.ออส.) ได้สั่งการด่วน ให้ระดมทรัพยากรและสรรพกำลัง ทุกหน่วยงานในพื้นที่ เข้าสนับสนุนการควบคุมไฟป่า เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่า และหมอกควันในพื้นที่ทุกภาค มีความรุนแรง พร้อมทั้งให้จัดตั้งห้องควบคุมสถานการณ์ (War room) ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ หรือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อช่วยบัญชาการและเชื่อมต่อกับ War room ของจังหวัด ตลอด 24 ชม. ขณะที่มีปฏิบัติการควบคุมและดับไฟป่า โดยให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (ผอ.สบอ.) ทุกพื้นที่กำกับดูแลช่วยเหลือ และสนับสนุนในทุกช่องทาง ด้วยทรัพยากรและสรรพกำลังที่มีอยู่นั้น

ทั้งนี้ นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า ได้มอบแนวทางให้ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (ชุดเสือไฟ) ที่เดินทางมาจาก ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่านครศรีธรรมราช และศูนย์ปฏิบัติการไฟป่านราธิวาส ในภารกิจงานสนับสนุนการควบคุมไฟป่า ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี รวม 30 นาย เนื่องจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี พบการเกิดไฟป่าจำนวนหลายจุด มีการสนธิกำลังเข้าควบคุมไฟป่าแล้ว แต่ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าให้สงบลงได้ สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงสั่งระดมชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (ชุดเสือไฟ) จากพื้นที่ภาคใต้เข้าไประดมช่วยควบคุมไฟป่า

ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) เผยต่อว่า ในปีนี้ ลักษณะอากาศจะแห้ง ทำให้เศษใบไม้ต่าง ๆ แห้งกรอบ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี หากมีประชาชนไปเก็บหาของป่า และจุดไฟด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม แล้วดับไม่สนิท จะเกิดไฟลุกลามขยายวงกว้าง จึงอยากให้ประชาชนที่อยู่รอบ ๆ แนวเขตป่าไม้ หรือป่าอนุรักษ์ ให้ช่วยกันสอดส่อง ไม่ให้ใครไปจุดไฟหรือเผาสิ่งใดใกล้ป่า เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อต้นไม้และสัตว์ป่า ที่ระบบนิเวศก็เสียหาย เกิดมลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 รวมทั้งยังมีความผิดตามกฎหมายอีกด้วย

สำหรับในพื้นที่ป่าอนุรักษ์หลายแห่งของ จ.กาญจนบุรี ที่เกิดไฟป่า ประกอบด้วย อุทยานฯ เอราวัณ อุทยานฯ ไทรโยค อุทยานฯ เขาแหลม อุทยานฯ เขื่อนศรีนครินทร์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ทาง สบอ.3 (บ้านโป่ง) ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมดำเนินการควบคุมและดับไฟป่ามาอย่างต่อเนื่อง โดย นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) พร้อมนายประวัฒน์ พวงทอง หน.อุทยานฯ เอราวัณ นำกำลังเจ้าหน้าที่เอราวัณ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ไฟป่าสลักพระ-เอราวัณ กว่า50 นาย พร้อมอุปกรณ์ในการดับไฟ เข้าควบคุมดับไฟป่า ในพื้นที่รอบอุทยานฯ รวมกว่า 30 จุด ในพื้นที่ 4 ตำบล เขต อ.ศรีสวัสดิ์ และอ.ไทรโยค ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมดับไฟ ได้จนหมดทุกจุด รวมทั้งทำแนวกันไฟ ป้องกันไม่ให้เกิดการลุกลาม หากเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอีก อีกทั้งคอยเฝ้าระวังโดยจัดชุดลาดตระเวน คอยตรวจสอบตลอด 24 ชม.

ต่อมา นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) นายไชยวุฒิ อารีย์ชน หน้าอุทยานฯเอราวัณ นำกำลังเจ้าหน้าที่เอราวัณ เจ้าหน้าที่ศูนย์ไฟป่าสลักพระ-เอราวัณ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า (ชุดเสือไฟ) ที่เดินทางมาจากศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า นครศรีธรรมราช และศูนย์ปฏิบัติการไฟป่านราธิวาส รวมกว่า 60 นาย เดินทางเข้าควบคุมดับไฟป่า ตามที่ได้ตรวจสอบจากจุดฮอตสปอร์ต รวมกว่า 60 จุด ในบริเวณพื้นที่ ต.แม่กระบุง และ ต.ท่ากระดาน ต.นาสวน ต.ด่านแม่แฉลบ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ท่ากระดาน ในหลายพื้นที่ไม่สามารถใช้รถยนต์ในการเดินทาง เจ้าหน้าที่ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเดินทาง ไปตามเกาะแก่งต่าง ๆ เพื่อดับไฟป่า โดยเจ้าหน้าที่ อช.เขื่อนศรีนครินทร์ ได้เริ่มดับไฟป่ามาตั้งแต่ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ได้กำลังและอุปกรณ์การดับไฟสนับสนุน จึงสามารถควบคุมดับไฟป่า ได้จนหมดทุกจุด

ส่วนที่ อช.ไทรโยค นายสุพล คำเสนาะ หน.อุทยานฯ ไทรโยค นำกำลังเข้าควบคุมดับไฟป่ากว่า 30 จุด บริเวณพื้นที่ ต.บ้องตี้ ต.วังกระแจะ ต.ไทรโยค โดยขณะนี้ทำการดับไฟป่าจนสงบเรียบร้อย ไปเกือบหมดทุกที่แล้ว รวมทั้งทำแนวกันไฟในพื้นที่ต่าง ๆ ขณะเดียวกัน นายพิเชษฐ์ ชัยสวัสดิ์ หัวหน้าอุทยานฯ ลำคลองงู และ นายอภิสิทธิ์ สมบัติมาศ หน.อุทยานฯ เขาแหลม ก็นำกำลังเร่งดับไฟป่าในพื้นที่ แต่โชคดีที่อุทยาน ฯ ทั้ง 2 แห่ง เกิดไฟป่าเพียงไม่ถึง 10 จุด จึงสามารถควบคุมดับได้อย่างรวดเร็ว

จากสถานการณ์เกิดไฟป่าทั่วทุกภาคในขณะนี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า ได้สั่งการให้สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า (สปฟ.) ติดตามสนับสนุนในภาพรวมอย่างใกล้ชิด พื้นที่ที่เกินขีดความสามารถ ของหน่วยงานรับผิดชอบ ให้เร่งสนับสนุนและรายงานให้ทราบโดยทันที ชุดสายตรวจเฉพาะกิจปราบปราม ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด หากพบให้จับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และประชาชนที่พบเห็นไฟป่า รวมทั้งการกระทำผิด ด้านทรัพยากรป่าไม้ และสัตว์ป่า ขอให้แจ้งสายด่วน 1362 ได้ทุกเวลา

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดไฟป่าลุกลามในพื้นที่อุทยานฯหลายแห่ง ทำให้เกิดหมอกควัน กระจายไปทั่วตามแรงลม ใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ไทรโยค และ อ.ศรีสวัสดิ์ เป็นเหตุให้ชาวบ้านมีอาการแสบตา รวมทั้งหายใจไม่สะดวก ต่างนำผ้าชุบน้ำมาคอยเช็ดหน้าตา รวมทั้งสวมแมสก์ป้องกันการสูดควันไฟ

https://www.youtube.com/watch?v=L8Azz-VzxlM