นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงกรณีดราม่าการขึ้นรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มีตราโครงการสลาก 80 ประทับอยู่บนสลากฯ ว่าสำนักงานสลากฯ ขอชี้แจงว่า สำหรับผู้ที่มีสลากโครงการ 80 บาท แต่ไม่ได้ซื้อจากร้านโดยตรงยังคงมีสิทธิสามารถขึ้นรางวัลได้อยู่ เพราะตามระเบียบสำนักงานฯ จะจ่ายเงินรางวัลให้ผู้ที่ถือใบสลากฯ เป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อก็อาจมีความเสี่ยงขึ้นรางวัลไม่ได้ หากมีคนที่ซื้อสลากโดยตรงจากร้าน 80 บาท ไปแจ้งความหรืออายัด ก็จะไม่สามารถขึ้นรางวัลได้ และต้องไปตัดสินความถูกผิดอย่างเช่นกรณีหวยอลวนครูปรีชาก่อน ดังนั้น จึงขอรณรงค์ให้นักเสี่ยงโชค ซื้อลอตเตอรี่จากร้าน 80 โดยตรงเท่านั้น อย่าซื้อจากผู้ค้าที่มีการรวมชุดหรือขายเกินราคา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการขึ้นรางวัลตามมาทีหลัง

“ผู้ซื้อสลากฯ หากไม่ได้ซื้อจากจุดจำหน่าย แต่ปรากฏว่ามีเครื่องหมายประทับ แสดงว่าสลากฯ ใบนั้นเคยขายให้ใครมาก่อนแล้ว ซึ่งหากถูกรางวัลและมีการแจ้งอายัด ต้องมีการสืบสวนต่อไปว่าผู้ซื้อคนแรกคือใครซึ่งผู้ซื้อคนแรกจะมีสิทธิในการรับรางวัล ไม่ใช่ผู้ที่ซื้อจากแผงทั่วไป เนื่องจากในช่วงการซื้อจะมีข้อมูลการจ่ายเงินผ่านแอปเป๋าตังไว้อย่างอย่างชัดเจน”

ปัจจุบันโครงการสลาก 80 มีจุดจำหน่าย 1,047 จุดมีสลากวางขายประมาณ 2.5 ล้านใบ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการให้ผู้ซื้อมีโอกาสเข้าถึงสลาก 80 บาทมากขึ้น สำหรับตัวเลขที่มีการประทับอยู่บนใบสลากฯ ในส่วนของตัวเลขชุดแรกเป็นการแสดงตัวเลขจังหวัด ตัวเลขชุดต่อมาแสดงถึงเขตอำเภอ และตัวเลขชุดสุดท้ายแสดงถึงพื้นที่จุดที่จำหน่าย 

สำหรับโทษความผิดกรณีร้านค้าที่อยู่ในโครงการสลาก 80 หากนำไปขายช่วงต่อหรือขายเกินราคา จะมีการลงโทษตัดสิทธิออกจากโครงการตลอดชีวิต ส่วนคนซื้อสลากโครงการ 80 นำไปรวมขายต่อเกินราคาก็จะมีความผิดโทษปรับสูงสุด 10,000 บาทต่อครั้ง ส่วนผู้ซื้อแม้ไม่มีความผิด แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจขึ้นรางวัลไม่ได้ตามมาภายหลัง