สืบเนื่องจากกรณีที่วานนี้ (7 มี.ค.) นายปราปต์ปฎล สุวรรณบาง หรือ ปราปต์ ดาราชายชื่อดัง เข้ายื่นหนังสือติดตามความคืบหน้าในคดีฟอกเงินหลังจากที่ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาไปเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 65 และได้เปิดโปงขบวนการตบทรัพย์หลักสิบล้านบาทของคนใกล้ชิดเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงแห่งหนึ่ง เพื่อช่วยเคลียร์คดีฉ้อโกงประชาชนของ น.ส.ภคมน สีลุน หรือ กู๋กี๋ (แฟนสาวของปราปต์ปฎล) ให้ได้รับการประกันตัวชั่วคราว จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงกระทรวงยุติธรรมนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขาฯ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ว่า ว่าที่ ร.ต.กฤษดา กฤตเมธานนท์ หรือ ทนายเฮง เป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และทนายเฮงก็เคยเป็นหนึ่งใน 30 คนของทีมงานทนายอาสา ตนยังยืนยันว่าตัวเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องเงินดำเนินการเรื่องคดีดังกล่าว และเรื่องนี้ก็เป็นการพูดคุยกันเองของพวกเขาทั้งสามคน ส่วนการ์ตูน (เพื่อนสนิทกู๋กี๋) ก็เป็นเพื่อนกับทนายเฮงมานานกว่า 10 ปี และตนไม่ปฏิเสธที่เคยรับประทานอาหารร่วมกับคุณการ์ตูน เพราะรู้จักกับการ์ตูนจริง ๆ จากทนายเฮง ก็เป็นการรู้จักกันผ่านรุ่นน้อง รับประทานอาหารอะไรกันเป็นปกติ

อีกทั้งเรื่องคดีของกู๋กี๋ ตามที่ปราปต์ได้ให้สัมภาษณ์วานนี้ ตนต้องชี้แจงว่า ทางการ์ตูนเป็นฝ่ายประสานติดต่อมายังทนายเฮงเอง เพราะเขาอยากช่วยเพื่อนให้ได้รับการประกันตัว จึงนัดหมายกับทนายเฮงเพื่อพูดคุยเรื่องรายละเอียดการยื่นประกันตัวต่อศาลของกู๋กี๋ที่ยังอยู่ในเรือนจำฯ ซึ่งตัวเลขเป็นหลักล้านจริง แต่มันคือตัวเลขที่เกี่ยวกับการใช้ในการสู้คดี ค่าวิชาชีพต่าง ๆ ค่าดำเนินการในส่วนของทนายความ เพราะในอัตราโทษสูงเนื่องด้วยคดีฉ้อโกงประชาชน ย่อมใช้หลักทรัพย์ในการวางมัดจำต่อศาลจำนวนมาก เพื่อให้ศาลพิจารณาให้ประกันตัวชั่วคราว และที่สำคัญในแนวทางการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอ กู๋กี๋ ถือเป็นผู้ต้องหาแถวที่หนึ่ง คือ มีส่วนร่วมในการบริหาร Forex-3D ร่วมกับ นายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหาร จึงแตกต่างจากกรณีของ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิงกี้ ที่เป็นผู้ต้องหาแถวที่สาม เป็นผู้รับโอนเงินจากนายอภิรักษ์ เพราะพิงกี้ได้ไปเปิดบริษัทแห่งหนึ่งรองรับออกมาจากบริษัทที่นายอภิรักษ์ไปหุ้น บทบาทจึงแตกต่างกัน

โต้เดือด! ‘เลขาฯรมว.ยธ.-ทนายเฮง-การ์ตูน’ แจงยิบ ปม ‘ปราปต์ปฎล’ แฉคดีForex-3D

ศาลจึงมีดุลพินิจให้ประกันตัวชั่วคราวตามเงื่อนไขที่ทนายความส่วนตัวของพิงกี้เสนอ แต่ถึงอย่างนั้น พิงกี้ ยังใช้หลักทรัพย์สูงถึง 5,000,000 บาท จึงอาจเป็นเหตุผลที่ในกรณีของกู๋กี๋ จะต้องมีการเตรียมการเรื่องหลักทรัพย์สูงตามที่ทนายเฮงได้ให้คำแนะนำปราปต์ปฎลในวันที่พวกเขามีการสนทนาพูดคุยกัน และนายปราปต์ปฎลอาจจะเข้าใจไปว่าพอตนเองไม่ได้ใช้บริการทนายเฮง จึงถูกดีเอสไอแจ้งข้อหาฟอกเงิน และมองว่าสิ่งที่การ์ตูนและทนายเฮงทำนั้น เป็นการเรียกรับเงินเพื่อเคลียร์คดีให้กู๋กี๋ ตรงนี้ตนมองว่าเป็นตรรกะที่ไม่ถูกต้อง เพราะในวงสนทนาขณะนั้น ปราปต์ยังไม่ถูกดีเอสไอแจ้งข้อหาฟอกเงิน และหากดีเอสไอหรือทนายเฮง การ์ตูน ต้องการตบทรัพย์ตามที่เขากล่าวอ้าง ทำไมไม่เกิดเหตุการณ์วิ่งเต้นคดีตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวน

แต่การพูดคุยของพวกเขาทั้งสามคนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. 65 เป็นการพูดคุยในระหว่างคดีของกู๋กี๋อยู่ในชั้นศาลไปแล้ว ดังนั้น จึงยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือความหวังดีของการ์ตูนที่ต้องการช่วยเหลือกู๋กี๋ให้ได้รับการประกันตัวชั่วคราว เธอจึงพยายามขอคำแนะนำหรือประสานใครก็ตามที่พอจะให้คำแนะนำช่วยเหลือทางคดีได้ รวมถึงทนายเฮงก็มีประสบการณ์ในคดีใหญ่ๆ ที่ทำให้ลูกความได้รับการประกันตัวชั่วคราว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการ์ตูนจะติดต่อมาที่ทนายเฮง แต่ทนายเฮงก็ไม่สามารถเข้าไปจัดการให้ได้โดยตรง เพราะทนายเฮงถือเป็นที่ปรึกษาของตน จึงมีการระบุไปว่าจะจัดหาทนายความมาช่วยดูแลคดีให้ และให้ทางนายปราปต์ไปเตรียมหาพยานหลักฐานต่าง ๆ ไว้ เพื่อใช้ยื่นศาลขอประกันตัวชั่วคราวให้กู๋กี๋ แต่ท้ายสุดนายปราปต์ก็ได้แจ้งผ่านการ์ตูนในช่วงนั้นว่าเขามีทนายความเเล้ว เรื่องราวก็เป็นอันจบลงไป

ขบวนการตบทรัพย์! ‘ปราปต์ปฎล’ แฉที่ปรึกษาเลขารัฐมนตรี เรียก10ล้าน ล้มคดีForex-3D

ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต เผยอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวานนี้ ตนจะไม่มีการไปแจ้งความหรือฟ้องร้องนายปราปต์ปฎลเพราะไม่เกิดประโยชน์ และตนเป็นคนทำงาน รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชน เป็นคนสาธารณะ เกิดเหตุการณ์พาดพิงใด ๆ ขึ้น ก็ยินดีชี้แจงต่อสังคมทั้งหมด ส่วนด้านทนายเฮง หรือ การ์ตูน ที่เป็นผู้เสียหายจากเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งคู่ย่อมสามารถใช้สิทธิในการดำเนินคดีได้ ขึ้นอยู่กับความประสงค์ของทั้งคู่ นอกจากนี้ หากปราปต์ยังยืนยันว่าตัวเองถูกตบทรัพย์จริง ๆ ก็ขอให้นำหลักฐานต่าง ๆ ไปแจ้งความดำเนินคดีได้

“ระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ตนรู้จักกับการ์ตูน ตนไม่เคยได้รับการขอความช่วยเหลือทางคดีกู๋กี๋จากการ์ตูนเลย นับตั้งแต่ชั้นสอบสวน และหากใครจะมาขอ ก็ขอไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนกรณีที่เป็นประเด็น ก็เพราะพวกเขาทั้งสามคนไปคุยกันเอง แต่เป็นการพูดคุยในขณะที่คดีกู๋กี๋อยู่ระหว่างชั้นศาลไปแล้ว เพื่อการ์ตูนจะช่วยกู๋กี๋ให้ได้รับการประกันตัวชั่วคราว โดยการ์ตูนไปคุยกับทนายเฮงเอง ตนจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไปอยู่เบื้องหลังใด ๆ ทั้งสิ้น ส่วนภาพที่การ์ตูนส่งให้นายปราปต์ปฎลดูทางไลน์ ที่เป็นภาพถ่ายคู่กับตนนั้น ก็เป็นภาพสมัยห้องทำงานยังอยู่ที่ตึกเก่า และการ์ตูนเข้ามาแสดงความยินดี นำอาหารมาให้ทานที่กระทรวงฯ จึงเป็นที่มาของการนั่งรับประทานอาหารด้วยกัน ข้อเท็จจริงก็มีเพียงเท่านี้ หากตนจะมีการช่วยวิ่งเต้นคดีให้อย่างที่ถูกพาดพิง กู๋กี๋ คงไม่อยู่ในเรือนจำฯ” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ขยายความ

เมื่อถามถึงความคืบหน้าคดีฟอกเงินของนายปราปต์ปฎล ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ระบุว่า ต้องย้อนความให้ทราบว่ารถหรูแอสตัน มาร์ติน ของกู๋กี๋นั้น ทางเพื่อนสาวประเภทสองของกู๋กี๋ที่เป็นเจ้าของคอนโดฯ ได้โทรศัพท์มาแจ้ง นายพงษธร อินอำนวย หรือ ผอ.เค เพื่อแจ้งว่า มีทรัพย์สินจากคดีแชร์ Forex-3D อยู่ที่ห้องพัก และให้มาทำการตรวจยึดไป เนื่องด้วยเกรงว่าจะถูกดำเนินคดี โดยที่ท้ายสุดเพื่อนคนนี้ก็ถูกดีเอสไอกันไว้เป็นพยาน จึงต้องถามว่าทำไมปราปต์ปฎลจึงไม่นำรถคันดังกล่าวมาให้ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ หรือติดต่อมาที่ดีเอสไอเพื่อจะได้ถูกกันไว้เป็นพยานเช่นเดียวกัน เมื่อทราบอยู่แล้วว่ารถคันนี้เป็นทรัพย์สินที่กู๋กี๋ใช้ประจำ และเป็นทรัพย์ที่กู๋กี๋ได้รับมาจากนายอภิรักษ์ โกฎธิ อดีตสามี และในฐานะผู้บริหาร Forex-3D ที่ขณะนั้นมีการนำเสนอข่าวอย่างต่อเนื่องว่า นายอภิรักษ์เป็นผู้ต้องหาในคดีไปแล้ว และถ้าบอกว่านำรถไปจอดหนีน้ำท่วม หากน้ำลดแล้วก็ควรจะประสานไปยังดีเอสไอหรือไม่

นอกจากนี้ รถคันนี้ยังไม่มีการโอน ผู้ครอบครองยังไม่ปรากฏชื่อ เป็นเพียงใบจองที่รอจดทะเบียน และต้องถามนายปราปต์ด้วยว่า ตอนที่นำรถไปจอดฝากไว้ที่บ้านเพื่อนจังหวัดราชบุรี ได้มีการเสนอขายรถคันนี้แก่เพื่อนเจ้าของบ้านด้วยหรือไม่ ส่วนรายละเอียดที่ปราปต์เสนอขายกับเพื่อนเจ้าของบ้าน อยู่ในสำนวนของดีเอสไอหมดแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่พนักงานสอบสวนพิจารณาพยานหลักฐานพบองค์ประกอบครบถ้วน จึงแจ้งข้อหาฟอกเงินแก่ปราปต์ปฎล ไม่อย่างนั้นก็คงแจ้งข้อหาไม่ได้ อย่างไรก็ตามทรัพย์สินที่ดีเอสไอยึดจากกู๋กี๋ รวมประมาณ 100 กว่าล้านบาท

ทั้งนี้ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ยังระบุอีกว่า คาดว่าคร่าวๆ ภายในสัปดาห์หน้า สำนวนคดีฟอกเงินของนายปราปต์ปฎลจะเสร็จสิ้นครบถ้วน แต่ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนว่าจะมีการนำส่งสำนวนต่ออัยการในช่วงเวลาใด ตนไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวในการดำเนินการของพนักงานสอบสวนได้ อีกทั้งจะมีการแจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่มเติมกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ และ น.ส.ภคมน สีลุน หรือ กู๋กี๋ เนื่องจากที่ผ่านมาทั้งสองคนถูกแจ้งข้อหาแค่ในส่วนของร่วมกันฉ้อโกงประชาชน แต่ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานมาอย่างต่อเนื่องจนได้ข้อสรุปว่าทั้งคู่จะถูกแจ้งข้อหาฟอกเงินด้วย โดยพนักงานสอบสวนจะเข้าไปแจ้งข้อหาแก่ทั้งคู่ภายในเรือนจำฯ ต่อไป.