จากกรณีชาว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ผวาฝูงหมาผีปอบรุมขย้ำวัวตายแล้วรวมหลายตัว บริเวณทุ่งนาด้านทิศเหนือของบ้านช่อง หมู่ 3 ต.ไผ่ อ.รัตนบุรี สภาพตามลำตัวและส่วนท้องถูกกัดจนไส้ทะลัก ขณะที่ลูกตาข้างหนึ่งก็หายไป เป็นภาพที่สยองกับเจ้าของวัวและผู้พบเห็น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มี.ค. นายบรรเจิด สีสด กำนัน และ น.ส.กวินทิพย์ พุจารย์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านช่อง พร้อมชาวบ้านได้พากันลงพื้นที่เกิดเหตุและนำไก่ผสมยาทำให้ซึม (นอนหลับ) ไปวางตามจุดต่าง ๆ ที่สุนัขได้ออกตระเวนหากิน ในบริเวณป่ายูคาฯ และท้องทุ่งนา เพื่อพิสูจน์ความจริงว่าการตายของวัวนั้นมาจากสาเหตุไหนกันแน่ หมาผีปอบ หรือ เป็นหมาจริง อีกทั้งถ้าหากเป็นจริงหมากลุ่มนั้นจะมาจากที่ไหนและมีเจ้าของหรือไม่ และเพราะเหตุใดถึงต้องกัดวัวของเจ้าเดียวตายไปถึง 3 ตัว ซึ่งบรรยากาศกลางทุ่งนาที่เป็นที่เกิดเหตุนั้นทั้งมืดและเงียบสงัด ผู้สื่อข่าวและผู้นำหมู่บ้านได้ดักและดักรอนานกว่า 3 ชั่วโมง ก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติเพียงได้ยินแต่เสียงสุนัขหอนโหยหวนเป็นระยะ ๆ เท่านั้น

น.ส.กวินทิพย์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดมาตั้งแต่เดือน ม.ค.แล้ว จนถึงเดือน มี.ค.นี้ มีวัวได้ตายจากการถูกหมากัดกินไปถึง 5 ตัวแล้ว โดยครั้งหนึ่งเจ้าของวัวได้เห็นว่าเป็นสุนัขพันธุ์ผสมระหว่างร็อตไวเลอร์และหมาไทย ซึ่งมีลักษณะตัวใหญ่กว่าหมาไทย และมีความสูงขนาดเข่าคน มีด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ได้มาไล่กัดกินวัว ซึ่งชาวบ้านได้ไล่จับแล้วแต่จับไม่ได้ หมาฝูงนี้เป็นหมาที่ฉลาดมาก เอาตัวรอดเก่ง และหมาพวกนี้มักจะอาศัยอยู่แถวป่าช้าท้ายหมู่บ้าน

ดึก ๆ มักจะเข้ามาที่หมู่บ้านเพื่อมากัดกินเป็ดไก่ของชาวบ้านจนตอนนี้เป็ดไก่ของชาวบ้านแทบจะหมดแล้ว จึงหันมากัดกินวัว และในวันนี้พวกตนก็พากันเอายาทำให้ซึมวางดักไว้ เพื่ออยากจะจับฝูงหมา 3 ตัวนี้ให้ได้ แต่ก็ยังไม่ได้ตัว ได้ยินแต่เสียงหอนโหยหวนเท่านั้น ชาวบ้านต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่าถ้ายังจับหมาฝูงนี้ไม่ได้ก็ควจะต้องเดือดร้อนเช่นนี้ต่อไป วัวที่อยู่ตามทุ่งก็ต้องมานอนเฝ้าระวังเพราะกลัวจะโดนหมาฝูงนี้กัดกินอีกแน่

ส่วนเรื่องว่าเป็นหมาผีปอบหรือไม่ ตนคิดว่าน่าจะเป็นหมาไทยธรรมดาที่ผสมกับพันธุ์ร็อตไวเลอร์ ที่มีสัญชาตญาณเป็นหมาล่าเนื้ออยู่แล้วจึงดุร้าย กอปรกับไม่มีเจ้าของเลี้ยงดู จึงทำให้หิวโซจึงได้ต้องล่าเนื้อกิน แต่ก็ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่คิดว่าเป็นหมาผีปอบ.