เมื่อวันที่ 14 มี.ค. เพจเฟซบุ๊กตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เผยแพร่ หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2566 ชี้แจงกรณีตามภาพข่าวและคลิปวิดีโอที่ปรากฏตามสื่อโชเชียล ตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ขอขี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวดังนี้พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นตามภาพข่าวและคลิปวิดีโอที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลนั้น เป็นการกระทำของบุคคลในภาพเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม โดยมีพฤติการณ์ที่จะวิ่งเข้าไปภายในเส้นทางเดินรถเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ใช้เส้นทางนั้น และได้ส่งเสียงก่อกวนอื้ออึงในพื้นที่หวงห้าม

‘ลุงตู่’ สะดุ้งเฮือก! ผู้สูงอายุยืนด่ากลางขบวนรถ รปภ.รีบปิดปากลากตัวออกนอกพื้นที่ทันควัน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามชั้นตอนของกฎหมาย ชี้แจงทำความเข้าใจกับบุคคลดังกล่าว และห้ามมิให้บุคคลดังกล่าวไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ แต่บุคคลดังกล่าวยังคงฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้หญิงเข้าไปทำการควบคุม แต่บุคคลดังกล่าวได้ต่อสู้ขัดขืน ยื้อชุดกระชาก ไช้ปากกัดทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชายเห็นเหตุการณ์ จึงได้เข้าช่วยควบคุมนำตัวออกจากพื้นที่ และได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ดังต่อไปนี้ 1.ผู้ใดทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันควร 2.ส่งเสียงทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงในที่สาธารณะ และ 3.ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่และควบคุมตัวบุคคลดังกล่าวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนตามภาพข่าว ผู้หญิงใส่เสื้อดำพยายามส่งเสียงก่อกวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปชี้แจง ทำความเข้าใจให้หยุดการกระทำดังกล่าว ซึ่งทางผู้หญิงเสื้อดำได้หยุดการกระทำนั้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าว หากพบว่ามีการกระทำผิด จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

เราในฐานะตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี ขอยืนยันว่า เราได้ปฏิบัติต่อทุกกลุ่ม ทุกความเห็นอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันตามกรอบของกฎหมาย ซึ่งเรามีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม หากไม่ว่ากลุ่มใดมีพฤติการณ์ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เกิดการยั่วยุที่จะใช้ความรุนแรงต่อกัน เราจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่โดยยืดหลักของกฎหมายเป็นสำคัญ.