เมื่อวันที่ 15 มี.ค. พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. ได้รับรายงาน พ.ต.อ.สาธิต สมานภาพ ผกก.5 บก.ทล. พ.ต.ท.ยุทธนัน จันทร์เนตร รอง ผกก.5 บก.ทล. พ.ต.ท.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล สว.ส.ทล.3 กก.5 บก.ทล. พบรถฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ต้องสงสัยจอดอยู่ริมถนนบริเวณแยกหนองอ้อ ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก จึงแสดงตัวขอตรวจสอบพบ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี เป็นผู้ขับมาเพียงลำพัง ภายในรถไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่บริเวณเบาะนั่งผู้โดยสารฝั่งซ้ายมีเตาอั้งโล่ ถ่านฟืน และจดหมายสั่งเสียฉบับหนึ่งเขียนด้วยลายมือนายเอ เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวไปพักสงบสติอารมณ์ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงสีหราชเดโชชัย

สอบถามนายเอ เล่าว่า ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ทำโปรแกรมศึกษาดูงานของนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งมีกำหนดเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น แต่ตนได้นำเงินของเพื่อนอาจารย์ นักเรียน รวมทั้งผู้ปกครอง ที่จ่ายเงินไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นไปหมุนใช้จ่ายส่วนตัว และหามาใช้คืนไม่ทันจนโปรแกรมดังกล่าวล่ม จึงเกิดความเครียดและคิดจะจุดไฟรมควันฆ่าตัวตายในรถหนีปัญหา

ภายหลังทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคำบอกเล่าพบว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา มีนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งเกือบ 40 คน โพสต์ข้อความลงในโซเชียลมีเดียว่าถูกนายเอ ซึ่งเป็นอาจารย์โรงเรียนโกงค่าทัวร์ทิพย์ รวมมูลค่าหลายล้านบาท โดยนายเอ อ้างกับเพื่อนอาจารย์ ผู้ปกครองรวมทั้งนักเรียนว่า ทางบ้านทำธุรกิจนำเที่ยวและกำลังจัดโปรโมชั่นพาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นราคาคนละ 50,000 บาท ถูกกว่าบริษัทนำเที่ยวอื่น จึงมีผู้หลงเชื่อซื้อทัวร์ดังกล่าวจำนวนมาก แต่เมื่อถึงวันเดินทางนายเอ ได้หายตัวไป และไฟลต์บินตามกำหนดเดินทางก็ไม่มีชื่อของผู้เสียหายดังกล่าว ทั้งนี้ ภายหลังทราบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมารับตัวนายเอ เพื่อดำเนินการต่อไป.