เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 มี.ค. ที่อาคารยิมเนเซียม สนามกีฬาสมโภชน์ 700 ปี จ.เชียงใหม่ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัย เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบนจำนวน 23 คน ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ ได้แก่ นายพจนารถ ศรียารัณย์, นางศรีพรรณ เขียวทอง, นายพรชัย อรรถปรียางกูร, ดร.มนสิชา ภัคดิเมธี, นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์, นางรัตนประภา ดิศวัฒน์, นายบดินทร์ กินาวงษ์, นางสาวกุสุมา บัวพันธ์, นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ, นายนรพล ตันติมนตรี จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่ นายปกรณ์ จีนาคํา, นายจำลอง ศรีสวัสดิ์ จ.ลำปาง ได้แก่ นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง, นางจินดา วงศ์สวัสดิ์, นายดาชัย เอกปฐพี, นายสมเกียรติ ตันตระกูล จ.แพร่ ได้แก่ นางสาวอาทิตยา อินนะไชย, นายสุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงษ์, นางสาวปอรวัลย์ มุดเจริญ จ.ลำพูน ได้แก่ นายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์ และจ.น่าน ได้แก่ นายสักก์สีห์ พลสันติกุล, นายสกล เนตรใสวรกุล, นายฉัตรชัย จิตตรง

ขณะที่แกนนำพรรคคนสำคัญเดินทางมาหลายคน นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะทํางานด้านเศรษฐกิจ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาฟังการปราศรัยประมาณ 3 พันคน และมีมาสคอตเป็นช้างสวมเสื้อและหมวกสีฟ้า ติดโลโก้พรรค พปชร. ด้านหลังเขียนว่า “พลังประชารัฐเชียงใหม่” สร้างสีสันให้กับเวทีปราศรัย ส่วนบรรยากาศที่เวทีปราศรัย ปรากฏว่ามีฝนฟ้าคะนองแต่ยังไม่หนักเท่ากับเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่มีลมกระโชกแรง ฝนตกหนัก และลูกเห็บตกในหลายพื้นที่ของจ.เชียงใหม่

สำหรับบรรยากาศก่อนการปราศรัย พปชร. มีชาวบ้านเดินทางมาร่วมเต็มยิมเนเซียมตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น. ขณะที่ตามกำหนดการเดิม พล.อ.ประวิตรจะขึ้นปราศรัย 17.15 น. แต่ปรากฏว่า ในช่วงที่พล.อ.ประวิตรยังไม่มาถึง ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับ เนื่องจากมีลมแรง และเสียงฟ้าร้องดังต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วงมรสุมพายุฤดูร้อน มีลูกเห็บตก ลงมาในบางพื้นที่ของเชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทำให้ประชาชนบางส่วนขอเดินทางกลับก่อน จนยิมเนเซียมดูโล่ง

ต่อมาเวลา 17.20 น. ร.อ.ธรรมนัสในฐานะกำกับดูแลการเลือกตั้งพื้นที่ภาคเหนือ กล่าวตอนหนึ่งว่า ตนตั้งใจมาหาชาวเชียงใหม่แต่วันนี้มีพายุโซนร้อนเข้าที่เชียงใหม่ ก็เข้าใจได้ที่อาจจะไม่ได้เจอกันครบทุกคน ล่าสุด ตนไปปราศรัยกับพี่น้องชาวเชียงรายมาประมาณ 10,000 คน ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก แต่พี่น้องยังมีใจมาให้การต้อนรับ และสนับสนุนพวกเรา

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายดี ๆ ทุกพรรคหากว่าเกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน แต่พรรคพลังประชารัฐ ตนได้พูดเสมอว่า เราเป็นพรรคของประชาชน ชื่อพรรคก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า เป็นการรวมกันของพลังของคน 2 กลุ่ม นั่นก็คือ การร่วมพลังของประชาชนทั้งแผ่นดินทั้ง 77 จังหวัด ภายใต้การดูแลของรัฐ ก็คือรัฐบาล

“ประเทศไทยของเรามีโครงสร้างเป็นฐานพิระมิด เริ่มจากฐานรากหญ้า ก็คือ พี่น้องประชาชน นโยบายที่พรรคพลังประชารัฐ นำเสนอออกมา คือต้องการทำให้คนฐานรากมีความเข้มแข็ง อย่างเช่น บัตรประชารัฐ ที่จะมีการเพิ่มเงินจากมูลค่า 300 เป็น 700 บาท ทันทีเมื่อพรรคพลังประชารัฐได้บริหารประเทศ”

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายดูแลผู้สูงอายุ 345 678 ที่ทุกวันนี้ผู้สู่งอายุได้รับอยู่ที่ 600 ถึง 1,000 บาท แต่หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐพร้อมดูแลผู้สูงอายุ 60 ปี เอาไปเลย 3,000 บาท 70 ปี 4,000 บาท และ 80 ปีขึ้นไป 5,000 บาท การสร้างความเข้มแข็งให้กับคนฐานรากต่อสิ่งสำคัญที่สุดที่พรรคพลังประชารัฐตั้งใจทำ เพราะเราต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเปราะบาง

“พรรคพลังประชารัฐ เราจะดูแลราคาพืชผลทางการเกษตรสำคัญของชาวภาคเหนือนั่นก็คือ ราคาลำไย คือสิ่งที่ผมต่อสู้อย่างต่อเนื่อง โดยมีคนที่สนับสนุนพวกเรามาตลอดก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ของเรา “ ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

ต่อมาเวลา 17.35 น. พล.อ.ประวิตร และคณะที่ในช่วงบ่ายเดินทางไปเวทีปราศรัยและเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพปชร.ที่ จ.เชียงรายก่อนนั้น ได้เดินทางมาถึงอาคารยิมเนเซียม ทันทีที่มาถึงประชาชนที่รอฟังการปราศรัยได้ตะโกนร้องต้อนรับเสียงดังกึกก้อง

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวบนเวทีปราศรัย ว่า รู้สึกอบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางพี่น้องชาวเชียงใหม่ซึ่งเป็นจังหวัดเมืองใหญ่ของไทย มีการท่องเที่ยวก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง ตนมาในวันนี้พร้อมกับผู้บริหารพรรคอีกหลายคน รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิก ฝาก พปชร.ไว้กับประชาชนทุกคนด้วย เราพร้อมจะทำงานรับใช้ชาวเชียงใหม่ทุกคน ฝากทุกคนไว้ว่า ให้เลือกผู้สมัคร ส.ส.ของ พปชร.ทุกคน พปชร.ได้คัดสรรคนดีคนเก่ง คนที่ตั้งใจจริงมาเป็นผู้แทน มุ่งมั่น ร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาแก้ไขปัญหาทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนเชียงใหม่ เราต้องดการแก้ปัญหาทุกเรื่องให้คนเชียงใหม่ให้อยู่ดีกินดี ผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ให้กับทุกคน

สำหรับนโยบายของ พปชร. ได้แก่ บัตรประชารัฐ 700 บาท ตนจะทำทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล ลดค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส อยู่ในความคิดของพปชร.ที่จะทำทันทีเช่นเดียวกัน การดูแลคนทุกช่วงวัย เบี้ยผู้สูงอายุ แม่และเด็ก ให้เท่าเทียมกัน ลดปัญหาความเลื่อมล้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง เป็นภารกิจของตนที่จะทำให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่ว่าจะน้ำอุปโภค อุปโภค น้ำเพื่อการเกษตร โดยเฉพาะน้ำประปา ต้องมีความสะอาด ตนจะต้องดำเนินงานให้ทุกคนได้ใช้น้ำที่ดีนอกจากนี้ จะลด PM 2.5 ซึ่งสำคัญสำหรับคนเชียงใหม่ โดยจะแก้ทันทีเมื่อเราเข้ามาเป็นรัฐบาล ขณะเดียวกัน เราจะปราบปรามยาเสพติด

ในเรื่องการใช้ที่ดินของรัฐ ซึ่งมีปัญหาซ้อน ตนกำลังทำอยู่ โดยจะให้คนที่ถือที่ดิน ส.ป.ก. ที่ดินของรัฐ และในป่าสงวน เราพยายามให้ทุกคนมีโอกาสมาเป็นเจ้าของที่ดิน โดยการออกโฉนดให้ ฝากทุกคนว่าให้เลือก พปชร. ทุกอย่างที่ตนพูด เราจะทำให้ท่านทันที ส่วนปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมออนไลน์ ที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ต้องแก้ปัญหาได้ทันที ซึ่งเราทำมาแล้วและจะทำต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่เรื่องการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของ จ.เชียงใหม่ ยืนยันว่าจะมาต่อยอด ดำเนินการให้ จ.เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

“การเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ขอให้ประชาชนให้โอกาส พปชร. พวกเราอาสาเข้ามานำความรัก สามัคคีมาสู่ประเทศชาติของเรา หมดเวลาแล้วที่คนไทยจะมาทะเลาะกันเอง ต้องจับมือกัน นำประเทศไปสู่ก้าวหน้า เพื่อความสงบของคนไทยทุกคน ฝากกับทุกคนว่า ถ้าอยากให้ประเทศมีความรัก สงบสุข สันติภาพเกิดขึ้น และมีความเป็นหนึ่งเดียวต้องเลือก พปชร. ฉะนั้น ตนฝากชาวเชียงใหม่ว่า ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพร้อมที่จะทำงานให้กับทุกคนในการแก้ปัญหาของทุกเรื่อง เพื่อความสงบสุข ความอยู่ดีกินดีของคนทุกระดับ”

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ใช้เวลาปราศรัยประมาณ 10 นาที จากนั้นได้เดินทางลงไปพบปะประชาชน โดยมีชาวบ้านมาคล้องมาลัย และให้กำลังใจ ตะโกนขอให้เป็นนายกฯ และ “ลุงป้อมสู้ๆ “โดย พล.อ.ประวิตรยิ้มรับ แม้จะสีหน้าอ่อนเพลียเพราะต้องเดินทางถึงปราศรัยถึง 2 จังหวัด นอกจากนี้ ยังมีประชาชนมาหอมแก้ม กอด และขอถ่ายรูป รวมถึงเดินไปส่ง พล.อ.ประวิตรขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับ

ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีนิด้าโพลเผยแพร่ผลสำรวจพบว่า พล.อ.ประวิตร ไม่ติด 1 ใน 10 อันดับแรกที่ประชาขนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ต้องปรับยุทธศาสตร์อะไร เราก็เดินหน้าของเราต่อไป” เมื่อถามย้ำว่า คาดว่าครั้งหน้าคะแนนความนิยมจะขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวสั้นๆ เพียงว่า “ไม่เป็นไร”

ทางด้าน ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประชาชนทยอยเดินทางกลับไม่รอฟังการปราศรัยของพล.อ.ประวิตรว่าช่วงนี้เป็นช่วงพายุและได้ตรวจสอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาว่า วันนี้พายุ กำลังจะลงมาอีกครั้ง ซึ่งทำให้ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกล ทยอยเดินทางกลับซึ่งตนเข้าใจ เพราะสภาพที่เจอพายุเมื่อวานนี้ขวัญยังเสียอยู่

เมื่อถามว่ามีเท่าไหร่ก็เท่านั้นใช่ไหม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เข้าใจพี่น้อง ประชาชนว่าสภาพอากาศ ไม่เอื้ออำนวย ซึ่งตนได้แจ้งไปแล้วว่าต้องระมัดระวังในช่วงนี้

“ยืนยันว่า ไม่กระทบกับการ ปราศรัย หาเสียง เราเข้าใจสภาพ เข้าใจประชาชน น้อยก็ไม่เป็นไร แต่เวทีปราศรัยที่จังหวัดเชียงรายมีคนเข้าร่วมประมาณ 10,000 กว่าคน แต่สภาพอากาศร้อน ซึ่งการปราศรัยในภาคเหนือช่วงนี้ค่อนข้างลำบาก อย่างไรก็ตาม จะเดินสายหา เสียงปราศรัยในแต่ละเขต เป็นปราศรัยย่อย”

เมื่อถามถึงการปราศรัยบนพื้นที่ภาคเหนือช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าตนมั่นใจว่า มีหลายเขตที่จะสามารถนำผู้สมัครของพรรคเข้าสู่สภา เป็นส.ส.ได้ 

เมื่อถามว่าได้ตั้งเป้าในพื้นที่เชียงใหม่ไว้จำนวนเท่าใดเพราะมีคนบอกว่าเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีเจ้าของแล้วร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่เชื่อทฤษฎีนี้ เหมือนสมัยก่อนที่พะเยาก็บอกว่ามีเจ้าของแล้ว แต่ก็เป็นมา 4 สมัย 16 ปี ซึ่งก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็น และในยุคนี้ปี 66 เราเตรียมตัวพอสมควร และมั่นใจว่ามีจุดขาย ทั้งนี้ที่เชียงใหม่ที่ผ่านมาให้ผู้สมัครลงพื้นที่อย่างจริงจัง ตนกำลังจะทำโพล ซึ่งต้องรอดูว่าโพลจะออกมาอย่างไร เราจะได้นำมาพิจารณาและแก้ไขต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามถึงภาพรวมทั่วประเทศจะได้กี่ที่นั่งร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ณ เวลานี้ เรามีส.ส.อยู่ 52 คน อย่างคนที่ตนดูแลอยู่ก็มั่นใจว่า ทุกคนจะกลับเข้าสู่สภาได้ ส่วนวัดที่ผู้สมัครเกรด A พรรคก็ทำโพลอยู่เช่นกัน ก็มั่นใจ ว่าเกิน 50 คน 

เมื่อถามถึงกรณีผลสำรวจของนิด้าโพล ที่ระบุว่าพล.อ.ประวิตรไม่ติด 1 ใน 10 อันดับแรก ที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี  ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่าไม่ได้ดูถูกสถาบันการทำโพล แต่สำหรับ ตนเป็นส.ส.ตลาดล่าง เรารู้ว่าควรจะทำอย่างไรให้ชนะกันเลือกตั้ง สถาบันโพลใช้คน 1-2 พันคนมาพิสูจน์ ผลการตัดสินไม่ได้เพราะฉะนั้นตนไม่สนใจเดินหน้าต่อ และผู้บริหารพรรคทุกคนก็เห็นตรงกันว่าเราจะเดินหน้าต่อ เรามีความมั่นใจในตัวเอง

เมื่อถามถึง ความชัดเจนในการจับมือกับพรรคเพื่อไทยหลังการเลือกตั้ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าเร็วเกินไปที่จะพูดตอนนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมามีหลายคนที่ไปรับประทานอาหารกับพล.อ.ประวิตร ซึ่งไม่ได้มีการพูดถึงการจัดตั้งรัฐบาล เป็นการคุยเรื่องทั่วไป

เมื่อถามว่าหลายคนมองว่าจะเป็นขั้วใหม่ทางการเมืองร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่ ส่วนจะไปกินข้าวร่วมกับพรรคการเมืองอื่นอีกหรือไม่ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วหัวหน้าพรรคไม่ได้เรียกร้องให้ใครมากินข้าวด้วย