เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่ยาวนานสุดมหากาพย์ เริ่มสืบหานานกว่า 7 วัน เรื่องราวของ “ท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137” ที่หายไปจากโรงไฟฟ้าพลังไอน้ำ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งวัสดุดังกล่าว มีลักษณะเป็นท่อกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาว 8 นิ้ว น้ำหนัก 25 กิโลกรัม โดยเป็นเครื่องมือวัดระดับของขี้เถ้าในไซโลของโรงไฟฟ้า ซึ่งเป็นวัตถุที่ไม่สามารถทำลายหรือแปรสภาพได้เอง ต้องมีขั้นตอนที่ละเอียดและต้องปลอดภัย เนื่องจากมีสารอันตรายต่อสุขภาพ

ภายหลังต่อมา เมื่อข่าวดังกล่าวถูกรายงานตามสื่อต่าง ๆ กลายเป็นว่าสร้างความวิตกกังวลแก่ชาวบ้านและประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานนานกว่า 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุ อีกทั้งมีการรายงานที่ไม่แน่นอนของ ซีเซียม-137 ว่าแท้จริงแล้ว หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และถูกหลอมไปหรือยัง

ล่าสุดประเด็นร้อนในครั้งนี้ ถูกพูดถึงสนั่น โดยชาวเน็ตต่างเข้ามาวิพาษณ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไทย ที่มีความล่าช้าและไม่ชัดเจนของการวางแผนงาน พร้อมพากันติดแฮชแท็ก #ซีเซียม-137 จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ในไทยเป็นที่เรียบร้อย อาทิ
“แล้วเรื่องระดับนี้มันวาระแห่งชาติแล้วอะ นายกฯ พร้อมรัฐบาลต้องแถลงแล้วลงไปคุม ตั้งแต่แรกที่มันหายละ ถ้าควบคุมได้ดีกว่านี้ มันยังไม่ถูกหลอมหรอก รับแจ้งว่าหายตั้งแต่ 10 มีนาอะxง แค่เห็นไทม์ไลน์ก็หงุดหงิดละ เหมือนค่อย ๆ หาอะ #ซีเซียม137”
“เตรียมตัวฉิบหายได้เลย คือไม่ใช่แค่คนพื้นที่ใกล้เคียงที่หายใจเข้าไปนะที่อันตราย อาหารจากสัตว์พืชหรือน้ำที่ปนเปื้อน ถ้าใครได้รับเข้าไปก็คือซวยทั่วกัน แล้ว physical half life 30 ปี อีเxยนรกกว่าตายเลยอีก ระแวงไปอีกนานอ่ะ #ซีเซียม137”
“วาระแห่งชาติ ต้องหยุดตรวจสอบพื้นที่ อย่าคิดเองว่าไม่อันตรายแล้ว แน่จริงเอาต่างชาติเข้ามาตรวจสอบ จะฉิบหายทั้งโลกแล้ว เพราะประเทศด้อยพัฒนา มาร้อยกว่าปี #ซีเซียม137”

“หายตั้งแต่ ก.พ. เพิ่งมายอมรับแล้วตามหาตอน มี.ค. ตอนนี้รู้แล้วว่าโดนหลอมตั้งแต่เมื่อวาน แต่ยังไม่ออกมาชี้แจงรายละเอียดอะไร นักการเมืองมัวแต่วุ่นวายหาเสียง นายกฯ วุ่นยุบสภา ความเป็นความตายของประชาชนถูกมองข้าม”

“งงตรงบอกว่า หายไป อย่าลืมว่า ซีเซียมเป็นโลหะเงินมันวาว สะท้อนแสงได้ดี ละลายได้ในอากาศชื้นและน้ำ เพราะฉะนั้นมันจะถูกกักเก็บไว้ในน้ำมันเพื่อป้องกันการสูญเสีย อิเล็กตรอน เอ้อ แล้วจะหายไปทั้งสถานะกักเก็บ ซึ่งก็งง แต่ที่นี่ไทยแลนด์ไง เลิกงงแป๊บ #ซีเซียม137”
“สิ่งที่ควรจะชี้แจงให้ประชาชนทราบมาก ๆ คือ ซีเซียม137 นี้ มีอันตรายแค่ไหน รัศมีโดยรอบไปไกลได้มากแค่ไหน ผลกระทบยังไง ต้องรับมือแบบไหน การป้องกันจะทำอย่างไร จะเยียวยาประชาชนในพื้นที่โดยรอบอย่างไร เพราะคนที่ได้รับผลกระทบมันไม่ใช่แค่ประชาชนตาดำ ๆ ไง ลูกหลานพวกคุณก็เช่นกัน #ซีเซียม137”
“คนยังไม่รู้ความอันตรายเยอะมาก ขาดความตระหนักรู้หลายอย่าง ตั้งแต่วิธีปฏิบัติตน ตอนเจอพายุ จนตอนนี้กัมมันตภาพรังสี #ซีเซียม137”

“ถ้าสืบสวนจริง ๆ ไม่ลูบหน้าปะจมูก อาจจะได้ระดับพวกผู้บริหารเข้าคุกก็ได้ แต่อย่าคาดหวังอะไรกับประเทศกะโหลกกะลาแบบนี้ สุดท้ายอาจได้ผลการสืบสวนไม่มีอะไรในกอไผ่ อาจได้ข่าวอีก 5 ปีข้างหน้า มีข่าวคนเป็นมะเร็งตายเป็นเบือมาแทน”
“ทำไมรัฐถึงไม่ออกมาประกาศการรับมือเกี่ยวกับสารตัวนี้ว่า มันควรจะรับมืออย่างไร ทำไมคนโง่ต้องมานำประเทศ #ซีเซียม137”

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวนี้ยังคงได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเช่นกัน และประชาชนชาวไทยยังถกถามร้องเรียนถึงภาครัฐเป็นเสียงเดียวกันว่า “เมื่อไหร่จะประกาศให้ประชาชนทราบถึงความอันตรายจากท่อวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 และวิธีป้องกันตัวเอง พร้อมด้วยวิธีการจัดการของรัฐบาลไทย ที่จะช่วยเหลือประชาชน”