เมื่อวันที่ 20 มี.ค. นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยผลการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐพร้อมพวก รวม 4 คน ของกลางยาบ้า 272,000 เม็ด ขยายผลยึดทรัพย์สินกว่า 7 ล้านบาท เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า “สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีให้ข้อมูลร้องเรียนผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ว่า นายซาการียา กาเจ นักค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ใช้รถเก๋งเดินทางไปรับยาเสพติดจำนวนมาก ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อตรวจสอบในฐานข้อมูลพบว่า นายซาการียา เป็นเป้าหมายการสืบสวนที่ ป.ป.ส. ติดตามความเคลื่อนไหวอยู่เช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ

ตนสั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด เร่งประสาน ป.ป.ส.ภ.9 ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ร่วมกับชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปรามยาเสพติดกองทัพเรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษศูนย์อำนวยการป้องกันและปรามยาเสพติดกองทัพเรือ ภาคที่ 2 บูรณาการกำลังร่วมสืบสวนติดตามรถยนต์คันดังกล่าว จนกระทั่งพบรถยนต์ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง อยู่ที่บริเวณสี่แยกนกเขา ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา และมีลักษณะต้องสงสัยว่าจะมียาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้นพบยาบ้า 272,000 เม็ด อยู่ในท้ายเก๋งของรถยนต์คันดังกล่าว จึงทำการจับกุมนายซาการียา กาเจ อายุ 32 ปี ชาว จ.นราธิวาส และนายอายุ ปีแนบาโง อายุ 47 ปี ชาว จ.ปัตตานี

จากนั้นได้สืบสวนขยายผล กระทั่งสามารถจับกุมนายสูรฮัน อีแต อายุ 42 ปี ชาว อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านบาโง ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้สั่งการให้เครือข่ายไปรับยาเสพติดจากนายซาการียา มาเก็บพักรอกระจายจำหน่ายในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่า ผู้สั่งการให้ลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้ คือ นายชารีฟ หรือเดร์ แลฮะ อายุ 48 ปี ชาว จ.นราธิวาส นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ มีประวัติเคยถูกจับกุมคดียาเสพติด และเคยต้องโทษอยู่ในเรือนจำความมั่นคงสูงสุดแห่งหนึ่ง ภายหลังพ้นโทษออกมา กลับมามีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดอีก เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม ซึ่งในขณะเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายชารีฟ เกิดไหวตัว และพยายามจะใช้อาวุธปืนซึ่งพกติดตัวอยู่ตลอดเวลา ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ แต่ชุดจับกุมได้เข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว ก่อนที่นายชารีฟ จะหยิบอาวุธปืน จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ต่อมาชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด กระจายตรวจค้นที่พักอาศัยและสถานที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับทำการยึด/อายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประเภท บ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ เงินสดในบัญชีธนาคาร ฯลฯ รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท สำนักงาน ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในขบวนการนี้ เพื่อจับกุมและยึด/อายัดทรัพย์สินอันเป็นการตัดวงจรการเงินให้ได้ทั้งขบวนการ ตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังให้ข้อมูลอีกว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (วันที่ 1 ตุลาคม 2565-20 มีนาคม 2566) สามารถจับกุมเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมทั้งสิ้น 14 คน จำแนกเป็น ทหาร 4 คน ข้าราชการส่วนท้องถิ่น 4 คน ตำรวจ 3 คน รัฐวิสาหกิจ 2 คน และพลเรือน 1 คน