เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 มี.ค. น.ส.แหม่ม (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ที่ถูก นายพุฒธิพงษ์ หรือลุงกอบ อายุ 64 ปี ญาติสมจิตร จงจอหอ นักมวยชื่อดัง แจ้งความดำเนินคดี หลังให้โอนเงินนับครั้งไม่ถ้วน และให้ดาวน์รถ จยย.ป้ายแดง ก่อนจะติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ เดินทางเข้ามาพบ นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา ที่สำนักงานทนายความ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังทักเพจเฟซบุ๊กทนายโป้ง เพื่อให้เป็นคนกลางช่วยไกล่เกลี่ยกับลุงกอบ จะขอชดใช้ค่าเสียหาย จะคืนรถจยย. 2 คัน กับโทรศัพท์มือถือที่ขอยืมไปเอากลับมาให้ทั้งหมด และขอชี้แจงผ่านสื่อว่า เรื่องที่ลุงกอบพูดบางส่วนไม่เป็นความจริง อยากให้สังคมเข้าใจอย่าเพิ่งตัดสิน ตอนนี้ถูกสังคมและโซเชียลลงโทษอยากให้คนที่มาคอมเมนต์ฟังความทั้งสองฝ่าย

ญาตินักมวยดังสุดช้ำ สาวแสบไม่ตรงปกหลอกผ่านเฟซฯ พลาดโอนไวสูญหลายแสน

น.ส.แหม่ม กล่าวว่า ตนไม่ได้หายไปไหนยังติดต่อลุงกอบ อยู่ตลอด คุยกันเกือบทุกวัน ตนบอกลุงกอบว่าอย่าไปออกรายการทีวี จะเอารถมาคืน ลูก ๆ จะต้องเรียนหนังสือ ลูก ๆ จะอยู่ยังไง อยู่ดี ๆ ตนเป็นคนดัง ถูกสังคมตัดสินไปแล้ว ตนไม่เคยพูดถึงลุงไม่ดี ไม่เคยพูดเลยว่าแกเป็นโรคอะไร ส่วนทรัพย์สินรถ จยย. จะคืนให้วันที่ 5 เม.ย. อีกคันจะคืนให้วันที่ 5 พ.ค. ส่วนโทรศัพท์ก็จะคืนให้พร้อมรถ จยย. นัดไปเจอวัดมหาวงษ์ เวลาเจอกันลุงกอบบอกคิดถึงจังเลย ตนทำกุ้งต้มเค็มให้กิน ชมว่าอร่อย ความดีไม่มีเลย พูดอยู่ฝ่ายเดียว นักข่าวไม่มาถามตน นำเสนอข่าวเลย ยอมรับผิดว่าบางเรื่องพูดโกหก ลุงกอบมีโรคประจำตัวหลายโรค ความดัน เบาหวาน โรคหวาดระแวง รับโทรศัพท์ช้าก็หงุดหงิด เป็นแบบนี้ตนก็ไม่เคยตัดความสัมพันธ์ หลังจากนี้ ถ้าความสัมพันธ์ไม่เหมือนเดิมไม่สบายใจเรื่องอะไร โทรฯ มาปรึกษาตนได้ ตนยังงงว่าลุงมาร้องแบบนี้ทำไม บางครั้งโทรฯ มาบอกว่า อยากมีอะไรด้วยกับตน พอไม่ไปหาหรือไม่ว่าง บอกว่าจะไปแจ้งความให้เอารถมาคืน ตนไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร

น.ส.แหม่ม กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องไม่ตรงปกวันแรกแอดเฟซกัน สักพักแอดไลน์คุยกันตนเปิดกล้องให้ดู บอกตรง ๆ ว่าตนไม่ได้เป็นคนสวย ตัวดำ ให้ดูรูปในวิดีโอ ลุงบอกชอบ หลังได้พูดคุยกัน ตนบอกว่า ยังไม่ได้จ่ายค่าไฟ ลุงกอบโอนเงินมาให้ 3,000 บาท ตอนตี 5 ซึ่งตนไม่ได้ขอ คุยกันสักพักตอนนั้นช่วงโควิด ตนว่างงานบอกอยากลงทุนขายน้ำส้ม ลุงก็โอนเงินมาให้อีก 4,000 บาท ต่อมานัดเจอที่ห้องพักลุงไปนอนด้วย ลุงบอกคนในโรงงานไม่มีใครชอบตน ถ้าเจอกันที่โรงงานลุงจะยืมเงินใครไม่ได้เลย เวลาไปหาให้แอบเจอกันแล้วนอนในวัด เวลาใครพูดอะไรลุงกอบเก็บเรื่องราวมาคิดเอาเองแล้วชวนทะเลาะ ตนบอกว่า วันข้างหน้าถ้าทำงานไม่ไหว เราจะจับมือกันไปหาขายของกินกัน

“วันนี้หนูต้องขอโทษลุงกอบ ยังรักลุงกอบอยู่ ไม่งั้นคงไม่อยู่กันมาถึง 4 ปี จนถึงตอนนี้ก็ยังรักและเคารพลุง หนูไม่เคยหลอกลุงกอ บ ทุกวันนี้หลังเป็นข่าวหนูไม่กล้าออกไปไหน ไม่กล้าดูโทรศัพท์ สงสารลูกไปโรงเรียน กลัวลูกอับอายเพื่อน คนที่รักกันมาตลอด 4 ปีไม่น่าทำกันเลย คงต้องทำใจ มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว” น.ส.แหม่ม กล่าว

ลุงกอบ กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจเรื่องที่ได้เจอและคุยตกลงกันกับฝ่ายหญิง ถ้าเขารับปากจะเอารถและโทรศัพท์มาคืน ก็ไม่ติดใจอะไร หลังจากนี้ก็ไม่ได้คบต่อ แต่ถ้าเขาพูดความจริงก็จะให้โอกาสเขา ลองคุยกันดูอีกครั้งได้ กลับไปเริ่มต้นใหม่ได้ วันนี้รู้สึกสบายใจขึ้นมาก

ทนายโป้ง กล่าวว่า ถือว่าเรื่องนี้จบแบบแฮปปี้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการพูดคุยตกลงกัน อะไรที่ลุงกอบไม่เข้าใจ หรือฝ่ายหญิงไม่เข้าใจ วันนี้ได้มาพูดความจริงพร้อมกัน หรือบางอย่างที่ฝ่ายหญิงไม่เคยบอกฝ่ายชาย หรือฝ่ายชายเข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อนกันไป คนเราอยู่ด้วยกันมีทั้งสุขและทุกข์ ดีและไม่ดี บางครั้งเจตนาดีแต่ประสงค์ร้าย หรือเจตนาร้ายแต่ประสงค์ดี วันนี้ทั้งคู่ได้พูดคุยกันแล้ว ส่วนเรื่องทรัพย์สินรถ จยย. 2 คัน โทรศัพท์มือถือที่เป็นทรัพย์สินที่ลุงต้องไปชำระหนี้ทางฝ่ายหญิงได้ทำบันทึกข้อตกลงให้ว่า วันที่ 5 เม.ย. 66 จะคืนให้ 1 คัน และวันที่ 5 พ.ค. 66 จะคืนให้อีก 1 คัน พร้อมโทรศัพท์มือถือ เหตุที่ว่าต้องนัดเพราะรถ จยย.ได้นำไปจำนำ จึงขอเวลาไถ่ถอนเพื่อมาคืนลุง

ทนายโป้ง กล่าวอีกว่า ฝากไว้สำหรับหลายคู่หากเข้าใจอะไรไม่ตรงกันให้หันหน้ามาพูดคุยกัน ปรับความเข้าใจมันจะดี ทรัพย์สินเงินทองไม่เข้าใครออกใคร คู่สมรสฝ่ายหญิงชาย หรือแม้กระทั่งคู่ผัวตัวเมียอยู่ด้วยกันยังทะเลาะกันเลย นับประสาอะไรกับคนที่คบกันผ่านโซเชียล คบแบบฉาบฉวย ถึงเวลาให้ทรัพย์สินไปแล้วและเกิดความไม่เข้าใจ ก็คิดว่าฉ้อโกงหลอกลวงกัน เรื่องจริงอาจจะแค่พูดไม่ตรงนัดหมายไม่ตรง ฝ่ายหญิงยินดีจะคืนทรัพย์สินที่เอาไปเพื่อยุติเรื่องจะได้ไม่ต้องดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา

ทั้งนี้ หลังจากลุงกอบไกล่เกลี่ยกับ น.ส.แหม่ม ต่อหน้าทนายโป้ง ระหว่างกำลังจะเดินทางกลับ น.ส.แหม่ม ได้ควักเงินเหรียญจำนวน 15 บาท ให้ลุงกอบดูก่อนจะซบอกลุง อ้อนขอค่ารถกลับบ้าน ทางลุงกอบอมยิ้มไม่รอช้ารีบควักเงินในกระเป๋าสตางค์ 200 บาท ให้ น.ส.แหม่ม ทันที.