กรณีตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ 3 นาย ถูกตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ จับกุมคาห้องสืบสวนภายในโรงพัก สภ.เมืองกาฬสินธุ์ หลังร่วมกันเรียกรับเงินจากญาติผู้ต้องหาคดียาเสพติด 5 แสนบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาด และเบื้องต้นมีคำสั่งให้ออกราชการไว้ก่อน 3 ราย ส่วนอีก 8 นายที่ถูกซัดทอดอยู่ระหว่างการชี้ตัวยืนยันจากผู้เสียหาย นั้น

จ่อเรียกสอบ 3 ตร.สืบสวนเมืองกาฬสินธุ์ คดีรีดเงินผู้ต้องหายาบ้า แลกปล่อยตัว
วงการนี้ไม่มีแผ่ว! ตำรวจจับ3ตร. คาห้องสืบรีด5 แสนคดียาแลกอิสรภาพ มีร่วมแก๊งอีก8นาย

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ เข้าติดตามคืบหน้าของคดีดังกล่าว โดยมี พ.ต.อ.สมพงศ์ มั่นหมาย รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ รายงานความคืบหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบวินัยตำรวจทั้ง 3 นาย พร้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ส่วนเรื่องคดีอาญาได้สอบปากคำแล้ว และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้กับ ป.ป.ช. ต่อไป

โดย ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ กล่าวว่า วันนี้ได้เข้ามาติดตามความคืบหน้าคดีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ มีการเรียกรับเงินเกี่ยวกับคดียาเสพติด เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นคดีที่เกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ สังคมและประชาชนให้ความสนใจ จากการสอบถามทราบว่า ขณะนี้ได้มีการสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว ปรากฏว่ามีผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ 3 ราย ประกอบด้วย ยศ ด.ต. อายุ 27 ปี, ยศ ส.ต.อ. อายุ 30 ปี และ ยศ ส.ต.อ. อายุ 27 ปี 3 ราย อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และจะนำสำนวนส่งสำนักงาน ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ จากนั้นทาง ป.ป.ช.กาฬสินธุ์ จะส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช.ส่วนกลาง เพื่อพิจารณาตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากผลการสอบพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะถูกลงโทษตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ความผิดเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐนั้นมีโทษหนักสุดถึงขั้นจำคุก 20 ปี

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าสอบถามความคืบหน้าของคดีกับ พ.ต.อ.อิทธเดช สุนทร ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงและหัวหน้าสถานี โดย พ.ต.อ.อิทธเดช ระบุว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ขอพูด และให้ไปสอบถามกับทางผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พ.ต.อ.ชัยพร พงษ์ศักดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ซึ่งดูแลเรื่องการสอบสวน ได้ประชุมร่วมกับ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกัณหา รองผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เจ้าของคดีประชุม เพื่อวางแนวทางการสอบสวนในคดีดังกล่าว แต่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปในห้องประชุม

โดย พ.ต.ท.สุเทพ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าของคดีหลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้สอบปากตำรวจชุดสืบสวนทั้ง 3 นายแล้ว ซึ่งทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ ไม่ให้การในชั้นสอบสวน และขอให้การในชั้นศาล และได้ใช้ตำแหน่งประกันตัวออกไป ซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหา แต่เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับ หรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้กับอัยการและ ป.ป.ช.ได้ภายในสัปดาห์นี้

พ.ต.ท.สุเทพ กล่าวอีกว่า ในส่วนตำรวจชุดสืบสวนที่ถูกกล่าวหาและซัดทอดว่ามีส่วนร่วมในวันที่ถูกจับอีก 8 นายนั้น ขณะนี้ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา เบื้องต้นเป็นการสอบถามขยายผลในวันจับกุม จึงยังไม่ได้เรียกตัวมาสอบปากคำ และยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับใครเพิ่ม อีกทั้งต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายและให้ผู้เสียหายมาชี้ภาพยืนยันว่ามีใครบ้างที่ส่วนร่วมจริงหรือไม่ ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และจะประสานผู้เสียหายมาสอบและชี้ภาพยืนยันในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด ที่มีการกล่าวอ้างว่าจับมานั้นเบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบยังไม่พบของกลางและไม่มีบันทึกจับกุม.