เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ 30 มี.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 905 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.2170/2563 ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายจุลภาค หรือ “ทอม เครือโสภณ” นักธุรกิจชื่อดัง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย จำนวน 5 ล้านบาท

คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 21 ส.ค .2563 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า จำเลยเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก ที่ชื่อ Tom Julpas Kruesopon ที่เปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ติดตามเฟซบุ๊กของจำเลยสามารถมองเห็นรับรู้และเข้ามาแสดงความคิดเห็นได้ โดยเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2563 จำเลยใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สาม โดยแพร่ภาพและคลิปผ่านเฟซบุ๊กพาดพิง นายสนธิ ลิ้มทองกุล กรณีแตกหักกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง เป็นข้อความเท็จทั้งสิ้น เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ทำให้ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียง

ดังนั้น การที่จำเลยแพร่ภาพสดและวิดีโอ ทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจได้ว่า การที่โจทก์ออกมาต่อต้าน “นายทักษิณ ชินวัตร” ในช่วงปี 2548-2552 เกิดจากการไม่ได้รับส่วนแบ่ง หรือไม่ได้รับผลตอบแทนตามสัญญาจาก นายทักษิณ ชินวัตร และทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นคนปลดหนี้เป็นพันๆ ล้านบาท ทั้งที่ความจริงแล้ว โจทก์ไม่เคยมีสัญญาหรือมีข้อตกลงว่าจะต้องได้รับผลประโยชน์ตอบแทน และในขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่เคยมี License (ใบอนุญาต) ทีวีออกมาแต่อย่างใด เหตุเกิดที่แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กทม. โดยศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องและประทับรับฟ้องคดีไว้เพื่อมีคำพิพากษา

ต่อมาในระหว่างการสืบพยาน “ทอม เครือโสภณ” จำเลยได้แถลงต่อศาล ยอมรับสารภาพ ขอเจรจาไกล่เกลี่ย โจทก์จึงให้จำเลยลงข้อความขอโทษลงในเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน และชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ จำนวน 3 แสนบาท แต่เนื่องจำเลยไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงได้ โดยยังไม่ชำระค่าเสียหายอีก 1 แสนบาท และยังไม่ลงข้อความขอโทษลงในเฟซบุ๊ก จึงขอให้ศาลอ่านพิพากษา เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 แต่ปรากฏว่าจำเลยไม่มา ศาลจึงออกหมายจับเพื่อให้มาฟังคำพิพากษา

ในช่วงเช้าวันนี้ นายจุลภาค หรือ “ทอม เครือโสภณ” จำเลยซึ่งมีท่าทางยิ้มแย้มและระบุสำนึกในการกระทำแล้ว เดินทางมาฟังคำพิพากษาตามนัด ส่วนโจทก์มีเสมียนทนายความมาฟังคำพิพากษาแทน

จากนั้นทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลย แถลงร่วมกันว่า ล่าสุดจำเลยได้ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน 3 แสนบาทแล้ว แต่ยังไม่โพสต์ข้อความข้อโทษลงในเฟซบุ๊กให้ครบถ้วน ต่อมาจำเลยแถลงว่ายินดีที่จะปฏิบัติตามข้อตกลง โดยได้ยินยอมโพสต์ข้อความขอโทษโจทก์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวต่อหน้าศาล และรับปากว่าจะอ่านข้อความขอโทษในไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กภายในวันนี้ และจะคงข้อความดังกล่าวไว้นานเป็นระยะเวลา 7 วัน จนถึงวันที่ 6 เม.ย. 2566 ทั้งนี้ ศาลให้จำเลยนำหลักฐานการโพสต์ดังกล่าวมาแสดงให้ศาลทราบด้วย

ดังนั้น ศาลอาญาจึงให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาอีกครั้ง ในวันนี้ 24 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น.