นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การจัดงาน Unfolding Bangkok ณ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของชาติ ผ่านการแสดงแสง สี เสียง ดนตรี และการแสดงหลากหลาย ตลอดระยะเวลา 9 วัน ได้รับการตอบรับดีมาก จากประชาชนชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยแต่ละวันมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1 หมื่นคน สูงสุดกว่า 3 หมื่นคนต่อวัน

นายเอกรัช กล่าวต่อว่า นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมงานทุกคนที่ให้ความสำคัญกับระบบคมนาคมขนส่งทางราง และได้มาร่วมกันย้อนรำลึกชมขบวนรถจักรไอน้ำ และตู้โดยสารที่ รฟท. นำมาดัดแปลงเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ประกอบด้วย รถจักรไอน้ำโมกุล เลขที่ 713 และ 715 ตู้รถเพรสทีจ (ที่ปรับปรุงมาอย่างสวยงาม) ตู้รถโดยสาร ชั้น 3 (รุ่นเก้าอี้ไม้) ตลอดจนชมเสน่ห์ของสถานีรถไฟหัวลำโพงในมุมมองใหม่ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สำคัญของสถานีหัวลำโพง ที่มีอายุยาวนานกว่า 107 ปี ซึ่งที่นี่เป็นชุมทางการเดินทางของผู้คนมากมาย ถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของประเทศ มีอาคารทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทั้งด้านสถาปัตยกรรม และด้านคมนาคมขนส่งทางราง รวมทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คที่มีเสน่ห์อีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

นายเอกรัช กล่าวอีกว่า รฟท. มีนโยบายที่ต้องการส่งเสริม สนับสนุนการอนุรักษ์ และพัฒนาอาคารสถานีรถไฟในฐานะมรดกทางประวัติศาสตร์ และสถาปัตยกรรมของไทย ซึ่งหลังจากนี้ รฟท. ยังมีแผนใช้พื้นที่บริเวณสถานีหัวลำโพง จัดกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือน เม.ย. นี้ จะนำหัวรถจักรประวัติศาสตร์รุ่นต่างๆ ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ มาจัดแสดงแบบถาวร เพื่อให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ชื่นชม พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของหัวรถจักรแต่ละคัน และระบบขนส่งทางรางจากอดีต ก้าวสู่อนาคต

นายเอกรัช กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสถานีหัวลำโพง ยังคงเปิดให้บริการขบวนรถไฟตามปกติ โดยเป็นการให้บริการในส่วนของกลุ่มขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถนำเที่ยวทุกสาย ซึ่งทุกวันนี้ยังมีประชาชนมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ รฟท. ยืนยันว่าจะพัฒนา อนุรักษ์ และส่งเสริมให้สถานีหัวลำโพง ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สำคัญ ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของคนไทยทั้งประเทศ ยังคงมีความสวยงาม และความมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดไป โดยจะจัดกิจกรรมต่างๆ ที่นอกจากจะให้พี่น้องประชาชนคนไทย ได้มาร่วมรำลึกประวัติศาสตร์ของกิจการรถไฟไทยในอดีตแล้ว จะใช้พื้นที่เพื่อสร้างประโยชน์ที่หลากหลายให้แก่สังคมด้วย