เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง กกต. 6 คน บินไปดูงานต่างประเทศ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาปัญหาระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม และวินิจฉัยนโยบายพรรคการเมืองได้ ว่ากรณีระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม ถือได้ว่าประชาชนยังไม่เสียสิทธิในการเลือกตั้ง เพราะยังมีการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 14 พ.ค. 66 แต่ทำให้ประชาชนมีความลำบากต้องเดินทางไปเลือกที่หน่วยเลือกตั้งตามทะเบียนบ้านได้ โดยก้ำกึ่งว่า กกต. เป็นคนทำให้ประชาชนเสียสิทธินี้ ซึ่งประชาชนสามารถฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งกับ กกต. ว่า ทำให้ประชาชนเกิดความเสียหาย อยู่ที่ว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร

หรืออาจจะฟ้องทางอาญาว่า กกต. ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งพูดยาก เพราะ กกต. เองก็ทำตามหน้าที่ เพียงแต่มีเหตุขัดข้องเกิดขึ้น และถ้าเป็นเรื่องจริยธรรมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ว่า กกต. ทำงานเต็มความสามารถหรือไม่ ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถหรื่อไม่ อาจจะเป็นจริยธรรมของคนดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ร้องเพื่อถอดถอนได้ แล้วแต่ว่าประชาชนคิดเห็นอย่างไร คนมีอำนาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีความรุนแรงหรือไม่ อย่างไร ซึ่งในองค์กรอิสระและการเมืองจะมีจริยธรรมอยู่ว่าคุณต้องทำงานเต็มความสามารถ ซึ่งตรวจสอบได้ เช่น แทนที่จะอยู่กันครบถ้วน หรืออยู่กันครึ่งหนึ่งเพื่อที่จะหาทางแก้ไขปัญหา แต่กลับไปอยู่ต่างประเทศ พูดได้ว่าไม่ตั้งใจทำเต็มความสามารถ

จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นความพยายามในการแก้ปัญหาเยียวยาสิทธิประชาชนจากเหตุระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่มเลย เพราะไม่มีคำตอบใดๆ จาก กกต. มีแต่คำขอโทษจากเลขาธิการ กกต. เท่านั้น ณ วันนี้เลยเวลาที่จะแก้ไขแล้ว ผ่านวันที่ 9 เม.ย. มากว่า 3-4 วัน แล้ว กว่า กกต. จะกลับมาวันที่ 25 เม.ย. เลยจากกรอบเวลาที่จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะวันที่ 25 เม.ย. บางครั้งการเลือกตั้งล่วงหน้าในต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว การที่บอกว่า จะตรวจสอบว่าในวันที่ระบบล่มนั้น มีคนเข้าไปค้างในระบบเท่าไหร่ แล้วจะเยียวยาให้ ถือว่าอย่างน้อยก็สามารถทำให้คนจำนวนหนึ่งที่ประสบปัญหาในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต แต่ต้องมีคำตอบว่าท่านได้ทำจริงแล้ว ไม่ใช่พูดไปเฉยๆ แล้วไม่ได้ทำอะไร ต้องมีตัวเลขคนที่ประสบปัญหามีเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นมีคำตอบ

นายสมชัย กล่าวต่อถึงกรณี กกต. 6 คนบินไปดูงานต่างประเทศ ว่า หากเป็นการเดินทางวันหยุดแล้วใช้เงินส่วนตัวไปคงไม่มีใครว่า แต่ท่านใช้เงินของราชการ ไปตรวจการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์ เพราะ 1. ท่านไปพร้อมกัน 2. ท่านไปในประเทศที่จำเป็นที่ต้องไปหรือไม่ เช่น ประเทศที่มีปัญหา มีคนไทยอาศัยจำนวนมาก แล้ว กกต. เคยประสบปัญหาในการอำนวยความสะดวกมากก่อน 3. ไปในจังหวะเวลาที่จะทำให้เห็นปัญหาการเลือกตั้งนอกอาณาจักรจริงหรือไม่ ซึ่งการไปในวันหยุดก็จริง ใช้เวลาราชการน้อยก็จริง แต่ถามว่ามันเป็นจังหวะเวลาที่เราจะเห็นภาพของการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ชัดเจนหรือไม่ คำตอบคือไม่เลย เพราะมันเป็นภาพที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเลือกทางไปรษณีย์ การเลือกตั้งที่สถานทูตก็ยังไม่เกิด จะเป็นเพียงการไปฟังบรรยายสรุปของสถานทูตต่างๆ ซึ่งหากแค่ฟังสรุป ก็ไม่ต้องเดินไปก็ได้ ฟังผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ผ่าน ZOOM ก็ได้ แต่ถึงฟังแล้วยังไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เพราะมันแก้ไม่ได้แล้ว เนื่องจากมีการวางระบบต่างๆ ไปแล้ว ทุกอย่างมันจบเมื่อวันที่ 9 เม.ย. แล้ว ดังนั้นทั้งสถานที่ และเวลาอาจจะไม่เหมาะ

โดยในห้วงเวลานับตั้งแต่เริ่มกระบวนการที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งนั้น โดยพื้นฐานเวลาประชุมก็จะใช้องค์ประชุมเกินครึ่ง ดังนั้นถ้าจะไปไหนก็แล้วแต่ ต้องเหลือไว้ครึ่งหนึ่ง เผื่อหากเกิดความจำเป็นจะได้เรียกประชุมได้ แล้วประธาน กกต. มีบทบาทรักษาการตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หากเกิดปปัญหาอะไรต้องดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง ดังนั้นประธานจะไปไหนไม่ได้ หากต้องไปก็ต้องมอบหมาย กกต. ท่านใดท่านหนึ่งเป็นรักษาการ ดังนั้นขณะนี้ หาก กกต. ไปหมดพร้อมกันในเวลาเดียวกันก็เป็นปัญหา ทั้งนี้ แม้การนับองค์ประชุมจะนับรวมการประชุมทางอิเล็กทรอนิกส์ และท่านเลขาฯ กกต. บอกว่ามีการประชุมทางไกลกันอยู่นั้น ซึ่งท่านเองคงพยายามหาคำตอบให้ดูดี เพียงแต่ต้องดูสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจริง ว่ามีการประชุมกันจริงหรือไม่ มีมติอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงทีหรือไม่ อย่างระบบล่มเมื่อวันที่ 9 เม.ย. วันที่ 10 เม.ย. มีการประชุมหรือไม่ มีการรายงานกรรมการทุกคนทราบ เพื่อแก้ไขปัญหาหรือไม่ หรือปล่อยผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงวันหยุดราชการ ไม่มีใครทำอะไรแล้วตอนนี้ เปิดอีกทีวันที่ 18 เม.ย. รอ กกต. ครบกันวันที่ 25 เม.ย. ดังนั้นจึงเหมือนว่า การประชุมคอนเฟอเรนซ์ต่างๆ ไม่ได้เกิดขึ้นจริง

“ผมไม่ทราบว่าตอนนี้ กกต. ทำงานกันหรือเปล่า ในช่วงสงกรานต์ เพราะตอนนี้มีหลายๆ เรื่องที่เป็นคำถามของพรรคการเมือง ที่เราสงสัยว่าตกลงท่านจะเอายังไง เช่น มีการนัดหมายพรรคการเมืองไปดีเบตกัน ซึ่งจัดโดย กกต. ในวันที่ 17 เม.ย. ผมยังไม่ได้รับคำตอบว่าคอนเฟิร์มหรือไม่ เพราะว่าเอกสารยังไม่มา มีการไปประชุมกัน นัดหมายกันโดยวาจา แต่หนังสือยังไม่มา ขณะนี้ยังตามหาไม่เจอ ว่าจะต้องโทรฯ ไปถามที่ไหน เพราะสำนักงานก็หยุด และอีกหลายเรื่อง ซึ่งรวมถึงข้อเรียกร้องให้มีการวินิจฉัยนโยบายเงินดิจิทัล” นายสมชัย กล่าว.