เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ห้างฯ เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วยนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. และผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 15 บึงกุ่ม ลงพื้นที่ช่วย น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 13 ลาดพร้าว หาเสียง โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของ ต่างเข้าไปขอถ่ายภาพทั้งนายเศรษฐา และ น.ส.สกาวใจ เป็นที่ระลึก

นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในพื้นที่ กทม.ว่า เรามีความมั่นใจ แต่ผู้สมัครทุกคนและแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคยังต้องลงพื้นที่เยอะๆ เพื่อสื่อสารนโยบายและตอบข้อสงสัยกับประชาชน เพื่อผลักดันนโยบายของพรรคให้เข้าถึงประชาชน ส่วนเวลาที่เหลือก่อนการเลือกตั้งทางพรรคมีทีมดูเรื่องตัวเลขอยู่หลังจากนี้ พรรค พท. จะเน้นลงพื้นที่ที่สูสีหรือที่คะแนนตามอยู่ โดยเราต้องทำงานหนักบางวันอาจมี 4-5 เวที เราไม่กลัวงานหนัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงที่ผ่านมาประเมินว่าการสื่อสารนโยบายของพรรคตรงเป้ามากน้อยอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ว่าเราจะทำดีขนาดไหน ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี นโยบายที่ดีของพรรคเพื่อไทยมีเยอะมากเราจะทยอยเผยแพร่ไปเรื่อยๆ โดยวันที่ 17 เม.ย. จะประชุมกับผู้สมัคร ส.ส.กทม. เพื่อขยายนโยบายต่อ เพื่อเน้นบางนโยบายที่บางพื้นที่อาจยังอธิบายไม่ชัดเจน ตรงนี้ถือเป็นการปรับแผน และคงไม่เน้นนโบบายอะไรพิเศษเพิ่มเติมเพียงนโบบายเดียวในพื้นที่ กทม. เพราะทุกนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ พ.ร.บ.อากาศสะอาด การสมรสเท่าเทียม การสมรสเท่าเทียม สิทธิเสรีภาพในการเลือกเพศสภาพ และการแก้ปราบคอร์รัปชั่นที่กัดกร่อนสังคมไทยมานาน ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา การจัดดัชนีคอร์รัปชั่นของไทยตกต่ำลงอย่างมาก เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ต้องขจัดให้พ้นจากสังคมไทย

เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออกมาระบุการแจกเงิน ควรพุ่งเป้าไปสู่กลุ่มที่เขามีความเดือดร้อน ไม่ใช่จะหว่านไปทั่ว นายเศรษฐา ตอบว่า “ถ้าคิดว่าตลอดเวลาที่ท่านอยู่มา 8 ปี ประชาชนทุกกลุ่มไม่ได้เดือดร้อนไปทุกหัวระแหง ก็ขอให้กลับไปดูหน่อย พยายามได้ยินเสียงที่ไม่อยากได้ยินบ้าง ท่านจะได้เข้าใจถ่องแท้ถึงความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน ซึ่งนโยบายพรรคเพื่อไทยครอบคลุมทุกกลุ่ม เพราะเรามั่นใจว่าเราคิดใหญ่ทำเป็น”

เมื่อถามถึง กรณีผลสำรวจความคิดเห็นของหลายสำนักออกมาว่า คะแนนของพรรคก้าวไกล ตามพรรค พท. มาแบบหายใจรดต้นคอแล้ว จะปรับเปลี่ยนกุลยุทธ์ที่ใช้หาเสียงหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า นโยบายเราชัดเจนอยู่แล้ว มั่นใจว่าครอบคลุมทั่วถึงและมีความหลากหลายผู้สมัครของพรรคทุกคนทุกเขต และแคนดิเดตนายกฯ เราพร้อมที่จะลงพื้นที่ชี้แจงประชาชนต่อไป

เมื่อถามว่านักวิชาการเสนอแนะให้พรรค พท. ประกาศจุดยืนให้ชัดเจนเหมือนพรรคก้าวไกลที่บอกไม่เอาฝ่ายตรงข้าม นายเศรษฐา กล่าวว่า ฝ่ายตรงข้ามของพรรค พท. คือความยากจน ความไม่เท่าเทียม และความไม่เสมอภาคในสังคมไทย เพราะฉะนั้นเราจะเดินหน้าให้ได้คะแนนเสียงสูงสุดแล้วค่อยว่ากันจับมือใครไม่จับมือใคร

เมื่อถามว่า หากพรรค พท. ได้เป็นรัฐบาล กลัวว่าจะเกิดการทำรัฐประหารอีกหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แล้วว่าการรัฐประหาร ทำอะไรให้ประเทศบ้าง ซึ่งพรรคเพื่อไทยยึดหลักนิติธรรม ไม่คอร์รัปชั่น และนำเสนอโนบายเพื่อประชาชนจริงๆ

เมื่อถามว่า หากเป็นรัฐบาลจะทำประชานิยมต่อเนื่องหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า จะเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่พรรคยึดโยงประชาชน หากยังเดือดร้อนเราก็จะเดินหน้าต่อ เราจะสร้างความมั่นคงทั้งด้านการเงิน และการคลัง ให้กับประชาชน และประเทศ

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าในบางพื้นที่ พรรค พท. เริ่มมีการแจกเงินซื้อเสียง นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีอยู่แล้ว

จากนั้น นายเศรษฐาและคณะเดินทางไปยังตลาดหน้าการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อช่วย นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 14 บางกะปิ หาเสียง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่เช่นเดียวกัน