สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาร์ทูม ประเทศซูดาน เมื่อวันที่ 19 เม.ย. เกี่ยวกับการสู้รบระหว่างกองทัพซูดานกับกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว (อาร์เอสเอฟ) ซึ่งเป็นกองกำลังกึ่งทหาร ที่ยืดเยื้อตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกหลายพันคน
นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับทั้ง พล.อ.อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของซูดาน และประธานสภาอธิปไตย ซึ่งเป็นผู้ปกครองประเทศ นับตั้งแต่ผ่านพ้นการรัฐประหาร เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และ พล.อ.โมฮาเหม็ด ฮัมดาน ดากาโล หรือ “เฮเมดติ” ผู้บัญชาการอาร์เอสเอฟ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานสภาอธิปไตย เกี่ยวกับการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เมื่อวันอังคาร
อย่างไรก็ตาม การสู้รบยังคงเป็นไปอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะในกรุงคาร์ทูม ซึ่งประชาชนในพื้นที่กล่าวไปในทางเดียวกันว่า รุนแรงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลในกรุงคาร์ทูมอย่างน้อย 4 แห่ง ถูกโจมตี และโรงพยาบาลในภูมิภาคอื่นรวมอย่างน้อย 16 แห่ง ไม่สามารถให้บริการได้ ด้านสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องการจัดตั้ง “ระเบียงมนุษยธรรม” เพื่อการันตีความปล่อยภัยในการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน หลังโครงการอาหารโลก (ดับเบิลยูเอฟพี) ระงับภารกิจทั้งหมด เหตุจากเจ้าหน้าที่ 3 คน เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่
ด้านกระทรวงการต่างประเทศซูดานประณามอาร์เอสเอฟ ทำร้ายบุคลากรการทูต หลังมีรายงานว่า ขบวนรถของเจ้าหน้าที่สหรัฐถูกโจมตี เอกอัครราชทูตของสหภาพยุโรป (อียู) ถูกทำร้าย และมีการบุกรุกบ้านพักของเจ้าหน้าที่ยูเอ็น กระนั้นอาร์เอสเอฟยืนกรานปฏิเสธ
ทั้งนี้ ชนวนเหตุของการสู้รบระหว่างกองทัพซูดานกับอาร์เอสเอฟ ซึ่งเคยร่วมกันทำรัฐประหาร ล้มประธานาธิบดีโอมาร์ อัล-บาเชียร์ เมื่อปี 2562 เกิดขึ้นจากการที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ เกี่ยวกับหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญ ที่นานาชาติให้ความสนับสนุน เพื่อปูทางสู่การเลือกตั้งทั่วไปภายในเดือน ก.ค. 2566 นั่นคือ การที่อาร์เอสเอฟต้องผนวกเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ.
เครดิตภาพ : REUTERS
