เมื่อวันที่ 19 เมย. พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปานบุญทอง ผกก.สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ร.ต.อ.ตุลกร สุริยวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ปะนาเระ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายลอบยิง นายอาหมัด เต๊ะ อายุ 41 ปี เสียชีวิต ขณะกำลังเดินไปทำละหมาดที่มัสยิดในหมู่บ้าน เหตุเกิดหน้าร้านขายของชำ บ้านสุเหร่า หมู่ 2 ต.ท่าน้ำ อ.ปะนาเระ

และจากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 13 ปลอก และหัวกระสุน จำนวน 6 ชิ้น พร้อมกันนี้ยังเก็บวัตถุพยานอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็น อส.อำเภอปะนาเระ โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้เดินออกจากบ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากมัสยิดประมาณ 150 เมตร เมื่อเดินมาถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้าย 2 คน ขี่รถ จยย. ตามหลัง เมื่อสบโอกาสจึงได้ชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงผู้ตายทันที ต่อหน้าชาวบ้านจำนวนมาก จนผู้ตายล้มลง คนร้ายยังได้เดินมาจ่อยิงซ้ำหลายนัดอย่างโหดเหี้ยมจนรู้แน่ว่าเสียชีวิต ก่อนจะขึ้นรถ จยย. เร่งเครื่องหลบหนีไป

ด้าน พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ อส. ที่ปฏิบัติภารกิจร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงมาด้วยดีตลอดมา และยังเป็นชุดดูแลความปลอดภัยให้กับบุคคลสำคัญในพื้นที่ด้วย ซึ่งขณะเกิดเหตุ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของผู้ตายมาตลอด และเมื่อผู้ตายเดินออกจากบ้านพัก คนร้ายซึ่งเฝ้ามาก่อนแล้ว ฉวยจังหวะที่ผู้ตายเผลอ ขี่รถ จยย. ปะปนกับชาวบ้าน แล้วใช้อาวุธปืนคาดว่า 2 กระบอก กระหน่ำยิงทันทีจนเสียชีวิต ขณะนี้ได้รวบรวมวัตถุพยาน เพื่อนำไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว เชื่อว่าน่าจะรู้กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ รวมไปถึงการสอบปากคำพยานและแกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิดทุกจุด

ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่า น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ หวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐ อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทุกหน่วย คุมเข้มพื้นที่ความรับผิดชอบ เนื่องจากตลอดหลายวันที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายได้มีการก่อเหตุต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเฝ้าระวังรถ จยย. จำนวน 2 คัน คือ ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีขาวม่วง และยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีแดงดำ เนื่องจากเป็นรถ จยย. ที่ใช้ก่อเหตุยิงในพื้นที่ อ.สายบุรี ทั้งนี้ เพื่อป้องกันรถ จยย. ลักษณะดังกล่าวมาใช้ก่อเหตุซ้ำ โดยเฉพาะนำมาดัดแปลงโดยการซุกระเบิดแสวงเครื่อง ไปก่อเหตุในพื้นที่.